การประชุมสองสภา (The Two Sessions) คือ สภาประชาชนแห่งชาติจีน และ สมาชิกคณะกรรมการแห่งชาติ ของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน บ้านเราเรียกว่าการประชุมร่วมสองสภาคือ ส.ส. กับ ส.ว. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เตรียมประกาศควบรวมอำนาจในการบริหารรัฐบาลกลางและบริหารเศรษฐกิจประเทศเอาไว้ในมือ มีการนำกฎหมายสำคัญฉบับต่างๆมาทบทวนกันใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ ในภาคของการเมืองน่าสนใจตรงที่ นโยบายจีนเดียว ที่มีแนวคิดใหม่ จะเป็นการรวมจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน ด้วยวิธีสันติภาพ ส่วนความเป็นไปได้แค่ไหน ต้องมองย้อนไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯด้วย
จะว่าไปแล้วกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ในการบริหารประเทศยุคของสี จิ้นผิง ที่ได้รับอำนาจเต็มจากทั้งสองสภา มีความอะลุ่มอล่วย แอบแฝงไปด้วยกลยุทธ์มากมาย ยืดหยุ่นและรู้จักใช้สถานการณ์ให้เป็นประโยชน์
การปรับโครงสร้างบุคลากรในคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ จะเน้นการควบคุมหน่วยงานที่ดูแลภาคการเงิน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเป็นพิเศษ ไม่ได้เน้นการทหารและความมั่นคงเช่นในอดีต อันที่จริงก็เป็นความชาญฉลาดอย่างหนึ่ง สมมติจีนจะหักดิบกับไต้หวันให้ได้ ก็จะเกิดความเสียหายทั้งสองฝ่าย สู้ปล่อยให้อยู่ในสภาพอิสระ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมดีกว่าเยอะ เช่นเดียวกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในปัจจุบัน
เพราะถ้าจีนจะเอาชนะโดยการส่งคนของตัวเองไปเอาชนะในสนามเลือกตั้ง ไต้หวัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงแต่ประการใด ขณะเดียวกันยังจะสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาและความร่วมมือกับภาคเอกชน ภาคธุรกิจตรงจุดนี้ ในทางตรงกันข้าม ภายใต้อาจเป็นการสลายเส้นแบ่งระหว่าง พรรคคอมมิวนิสต์ กับ รัฐบาล ไปด้วย เป็นการเปลี่ยนแปลงค่อยเป็นค่อยไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในยุคปัจจุบัน
...
ที่ยังเป็นจุดยืนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน รัฐบาลจีนเอาจริงเอาจังมากกับนักธุรกิจสีเทาๆ โฟกัสไปที่การเน้นนโยบายส่งเสริมและพัฒนาด้านเทคโนโลยีเป็นพิเศษ เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นดาบสองคม นอกจากจะพัฒนาแล้วยังเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทุนจีนสีเทาเข้ามาทำมาหากินในบ้านเราเป็นดอกเห็ด เปิดประตูต้อนรับและอำนวยความสะดวกโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีแต่ไทยแลนด์โอนลี่
สิ่งที่ สี จิ้นผิง ทำเป็นเรื่องแรก คือหามือทำงานที่ไว้ใจได้ โดยประกาศตั้ง หลี่ เฉียง หนึ่งในเพื่อนร่วมงานที่เชื่อใจที่สุด ให้รับตำแหน่งนายกฯคนใหม่ และยังจะแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญทางการเมือง ในคณะกรรมการกรมการเมืองหรือ โปลิตบูโร ซึ่งมีหน้าที่เทียบเท่าคณะรัฐมนตรีอีกหลายคน เช่น รมว.พาณิชย์ เป็นต้น
การรับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันและมีแนวโน้มว่าจะครองอำนาจต่อไปเรื่อยๆของสี จิ้นผิง ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน จะว่าไปแล้วโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลสีดำเนินการผิดพลาดหลายเรื่อง แต่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสมาได้ตลอด
สรุปสั้นๆด้วยคำว่า วิสัยทัศน์.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th