ในการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ครั้งที่ 17 ที่บาหลี ของอินโดนีเซีย ที่เสร็จสิ้นไม่กี่วันที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวสุนทรพจน์เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อสร้างอนาคตอันสดใสของโลก
ผู้นำจีนให้ทัศนะว่า ทุกวันนี้โลกเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่จบสิ้น ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดทางการเมือง รวมถึงวิกฤติอาหาร พลังงาน ไปจนถึงสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงรุนแรง กระทบความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก ดังนั้น ทุกประเทศควรสร้างอนาคตร่วมกันโดยสนับสนุนสันติภาพ สร้างความสามัคคีแทนความแตกแยก พัฒนาความร่วมมือแทนที่การเผชิญหน้า ร่วมแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ร่วมกันและอนาคตที่ดีกว่า ในขณะที่สมาชิกของจี 20 ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของโลกจึงควรเป็นแบบอย่างในทางสร้างสรรค์และหาโอกาสในการพัฒนาให้แก่ทุกประเทศ
ในการขยายกรอบความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายต้องอาศัยความเคารพซึ่งกันและกัน แสวงหาจุดร่วม สงวนความแตกต่าง อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ยึดมั่นในความเป็นหนึ่งเดียวกัน และสืบทอดจิตวิญญาณของการช่วยเหลือกันโดยไม่แบ่งฝ่าย จีนมองว่า การพัฒนาร่วมกันของทุกประเทศคือการพัฒนาที่แท้จริง ที่ผ่านมาได้เสนอโครง การริเริ่มเพื่อการพัฒนาระดับโลกมากมาย จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาและความร่วมมือใต้-ใต้ ซึ่งเป็นความร่วมมือในประเทศกำลังพัฒนา ยังมีแผนเพิ่มการลงทุนในกองทุนสันติภาพและการพัฒนาระหว่างจีน-องค์การสหประชาชาติ
ประธานาธิบดีจีนยังให้คำมั่นจะส่งเสริมการปฏิรูปองค์การการค้าโลกอย่างแข็งขัน และส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน ยังเสนอแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านนวัตกรรมดิจิทัล ตอบสนองวิกฤติสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ พร้อมเรียกร้องให้ร่วมสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาทั้งด้านเงินทุน เทคโนโลยี เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ขณะที่เสนอความคิดริเริ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหาร เพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานไม่สะดุด มีเสถียรภาพ
...
ผู้นำจีนปิดท้ายว่า จะพัฒนาชาติอย่างสันติ ด้วยการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งและเปิดกว้าง ส่งเสริมการพัฒนาอย่างรอบด้านสู่ความทันสมัย เป็นโอกาสดีแก่โลกในการช่วยผลักดันความร่วมมืออย่างแข็งแกร่ง.