โครงการศูนย์ศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ม.ธรรมศาสตร์เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด ‘นวัตกรรมการจัดบริการสาธารณะท้องถิ่น’ ให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาลและสมาชิกเมืองพัทยา รุ่นที่ 7 เวลา 13.00-16.00 น. ของพุธ 13 กรกฎาคม 2565 ที่สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น จ.ปทุมธานีลี กวนยู เกิด ค.ศ.1923 เป็นนายกรัฐมนตรีระหว่าง ค.ศ.1959-1990 ลีเป็นผู้แยกสิงคโปร์ออกจากมาเลเซียเมื่อ ค.ศ.1965 ช่วงที่แยกจากมาเลเซียใหม่ๆ ลีเดินทางไปเยือนกรุงโคลัมโบ (เมืองหลวงด้านการบริหาร) และศรีชยวรธนปุรโกตเต (เมืองศูนย์กลางด้านนิติบัญญัติและตุลาการ) ของศรีลังกา ลีตื่นเต้นกับความเจริญของกรุงโคลัมโบ ซึ่งเป็นเมืองท่าการค้าทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ของศรีลังกาของมหาสมุทรอินเดียและของโลกเมื่อกลับมายังสิงคโปร์ ลีพูดในสภาว่า ความใฝ่ฝันปรารถนาของข้าพเจ้าในฐานะนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าอยากให้สิงคโปร์เจริญได้สักครึ่งหนึ่งของกรุงโคลัมโบ ศรีลังกาเป็นเกาะอยู่ใต้อินเดีย สิงคโปร์ก็เป็นเกาะอยู่ใต้มาเลเซีย เรามีโอกาสเป็นเมืองท่าการค้าทางทะเลที่สำคัญเช่นเดียวกับกรุงโคลัมโบ ข้าพเจ้าสัญญาต่อหน้าท่านสมาชิกสภาว่าข้าพเจ้าจะพัฒนาสิงคโปร์ให้สำเร็จระหว่าง ค.ศ.1999–2019 ผมมีโอกาสตามท่านผู้ใหญ่ไปสิงคโปร์ หลังจากนั้นก็ไปกรุงโคลัมโบ โอ้โฮ ต่างกันเยอะครับ สิงคโปร์พัฒนาไปได้ไกล ทุกอย่างเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้ง ขณะที่โคลัมโบยังล้าหลังวังเวง ถนนหนทางเป็นหลุมเป็นบ่อ บางครั้งไฟฟ้าดับต้องสลับพื้นที่กันเปิดศรีลังการับเอกราชจากอังกฤษใน ค.ศ.1948 อีก 2 ปีถัดมา กรุงโคลัมโบก็โด่งดังในฐานะสถานที่จัดประชุมนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ นำไปสู่การเกิดแผนการโคลัมโบ กรุงโคลัมโบในสมัยนั้นมีเขตการค้าเสรีที่ชานเมืองทางด้านเหนือ คณะกรรมการเศรษฐกิจโคลัมโบประกาศเชิญชวนให้ชาวต่างประเทศเข้ามาลงทุนในด้านอุตสาหกรรมที่เจริญรุดหน้ากว่าประเทศอื่น ทั้งอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องใช้ไฟฟ้า คณะกรรมการเศรษฐกิจโคลัมโบพัฒนาเขตส่งเสริมการลงทุนในบริเวณใกล้เคียงกับสนามบินนานาชาติกตุนายเก พร้อมกับสร้างโกดังขนาดใหญ่สำหรับเก็บสินค้าที่ท่าเรือค.ศ.1978 (44 ปีที่แล้ว) กรุงโคลัมโบยิ่งใหญ่ไร้ที่ติ ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของท่าเรือดึงดูดให้มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรม ความพร้อมขององค์กรด้านการพาณิชย์และการให้บริการทำให้โคลัมโบเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทว่า อนิจจาเอ๋ย เพียง 74 ปีที่ได้รับเอกราช ประชาชนคนกรุงโคลัมโบแทบไม่มีน้ำมัน ไฟฟ้า น้ำประปาใช้ ผู้คนอดอยากขนาดต้องลดอาหารการกินจากวันละ 3 มื้อเหลือเพียงมื้อเดียว เสียงโอดโอยโหยหวนจากความหิวโหยดังไปทุกตรอกซอกกรุง และไม่เฉพาะกรุงโคลัมโบเมืองหลวงเท่านั้น ทว่าดังไปทั้งประเทศศุกร์ 8 กรกฎาคม 2022 ประชาชนคนศรีลังกาผู้อยู่ในอารมณ์เดือดดาล เดินทางไปจุดไฟเผาบ้านพักของนายกรัฐมนตรีในกรุงโคลัมโบ และบุกฝ่าประตูทางเข้าทำเนียบประธานาธิบดีเดินไปทั่วทุกห้อง ประธานาธิบดีราชปักษารีบวิ่งขึ้นเรือของกองทัพ จากนั้น เรือก็เร่งรีบแล่นไปยังน่านน้ำทางใต้ของเกาะซึ่งเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีจะใช้แถลงการณ์การตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ประธานสภาศรีลังกาแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า “ประธานาธิบดีราชปักษาจะลาออกในวันที่ 13 กรกฎาคม 2022” ซึ่งก็คือวันนี้เดิมมีการทำนายทายว่านายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน ทว่าเมื่อมองไปในแผ่นดินที่ไร้ความมั่งคั่งนังนึกกึกกี มีแต่ความอดอยากหิวโหย นายกรัฐมนตรีวิกรมสิงเหคงจะคิดในใจว่า อ้า ใครจะบ้าไปรับผิดชอบไหว แล้วท่านก็ประกาศต่อประชาชนคนทั่วไปว่า อ้า ข้าพเจ้ามุ่งหวังตั้งใจจะไปจากตำแหน่งผู้นำเช่นกัน อย่ามาเชิญข้าพเจ้าไปเป็นประธานาธิบดีเลย ข้าพเจ้าอยากจะเปิดทางสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ 31 ปี ลีก็ถอยจากตำแหน่ง แล้วไปเป็นรัฐมนตรีอาวุโส (1990-2004) รัฐมนตรีที่ปรึกษา (2004-2013) อีก 2 ปีต่อมา ลีก็ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อ 23 มีนาคม 2015 ด้วยอายุ 91 ปีวันนี้ หากวิญญาณลีล่องลอยไปเยือนกรุงโคลัมโบ ก็ยังน่าสงสัยว่า ท่านจะจำภาพเดิมของกรุงที่ท่านเคยไปเยือนหลังจากท่านแยกสิงคโปร์ออกจากมาเลเซียมาใหม่ๆ ได้หรือไม่.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com