กฎหมายญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประกาศบังคับใช้เมื่อปี 2501 ระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามบุคคลใดครอบครองอาวุธปืน (Firearms) หรือดาบ (Swords)จึงกลายเป็นเรื่องช็อกโลก หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ “ชินโสะ อาเบะ” อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นวัย 67 ปี ถูกคนร้าย “เท็ตซึยะ ยามากามิ” อดีตเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองวัย 41 ปี ใช้ปืนลูกซองประดิษฐ์ ยิงเสียชีวิตระหว่างการหาเสียงในจังหวัดนารา ภาคตะวันตกของประเทศกระบวนการครอบครองอาวุธปืนของญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากจนไม่มีเสียจะดีกว่า มีขั้นตอนทั้งหมด 13 กระบวนการ เริ่มจากผู้ที่ประสงค์จะครอบครองปืน จะต้องเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมปืนหรือสมาคมล่าสัตว์ เข้าอบรมหลักสูตรอาวุธปืนและสอบข้อเขียนจนผ่านจากนั้นผู้ประสงค์จะครอบครองปืนจึงต้องขอใบรับรองจากแพทย์ ว่ามีสภาพจิตสมบูรณ์ ไม่มีประวัติการพึ่งพายา ตามด้วยเข้าอบรมหลักสูตรเต็มวัน เรื่องวิธีใช้อาวุธปืน และการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยเมื่อกระบวนการเหล่านี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสัมภาษณ์ผู้ประสงค์จะครอบครองปืน ว่าทำไมถึงอยากมีอาวุธปืน พร้อมตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ที่รวมถึงการสัมภาษณ์สมาชิกครอบครัว ความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเป็นเช่นไร ประวัติการทำงาน และสถานะการเงินหากผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ ก็จะเจอขั้นตอนต่อไป ผู้ประสงค์จะครอบครองอาวุธปืนจะต้องขอใบอนุญาตครอบครองดินปืน และขอใบอนุญาตจากร้านขายปืนว่าอยากได้ปืนประเภทใด ก่อนดำเนินการซื้อล็อกเกอร์เก็บกระสุนปืนและตู้เซฟเก็บปืนมาไว้ในที่พักอาศัยเสร็จแล้วใช่ว่าจบ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบความเหมาะสม และจัดการสัมภาษณ์อีกรอบ ตรวจสอบประวัติอีกรอบ ขั้นตอนทั้งหมดเหล่านี้ จะลดลงนิดหน่อยหากประสงค์จะครอบครองปืนลูกซองสำหรับล่าสัตว์หรือการกีฬา แต่ก็ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มข้นโดยตำรวจ อบรม สอบ ขอใบอนุญาตอยู่ดีอย่างไรก็ตาม พลเรือนชาวญี่ปุ่นห้ามครอบครอง “ปืนสั้น” เด็ดขาด และแต่ละจังหวัดห้ามมีร้านขายปืนเกิน 3 ร้าน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอาชญากรรมอาวุธปืนของญี่ปุ่นจึงต่ำมาก ปีนึงมีผู้เสียชีวิตจากปืนไม่เกิน 10 คน แต่ไม่น่าเลยที่หนึ่งในผู้เสียชีวิตปีนี้ คือท่านชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีขอให้ท่านไปสู่สุคติ ภพภูมิที่ดีครับ.ตุ๊ ปากเกร็ด