สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสงครามยูเครน-รัสเซีย เมื่อวันที่ 8 ก.ค. อ้างการเปิดเผยของ พล.ท.อิกอร์ โคนาเชงคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ว่า กองทัพรัสเซียที่อยู่ระหว่างปฏิบัติการในยูเครนจะทำการหยุดพักชั่วคราว เพื่อฟื้นฟูกำลังและศักยภาพในการสู้รบ แต่มิได้ระบุเวลาที่ชัดเจน
ขณะที่นักวิเคราะห์ตะวันตกประเมินว่า รัสเซียต้องการสั่งสมกำลังเพื่อปฏิบัติการรุกขนานใหญ่ระลอกต่อไป แต่เชื่อว่ารัสเซียจะยังคงปฏิบัติการบุกขนาดย่อม เจาะแนวรบทีละเล็กน้อยตามแนวรบต่างๆไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งจะไม่หยุดการโจมตีด้วยปืนใหญ่ โจมตีทางอากาศ หรือด้วยจรวดมิสไซล์
ด้านนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกแถลงการณ์เตือนชาติตะวันตกว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเริ่มยุทธการไปเพียงเล็กน้อย ขอท้าให้ชาติตะวันตกพยายามปราบรัสเซียในสนามรบ พร้อมระบุว่า ยิ่งความขัดแย้งยืดเยื้อนานเท่าไร หนทางในการเจรจาก็จะยิ่งแคบลงไปเรื่อยๆ ยิ่งนานยิ่งคุยกับเรายากขึ้น ทุกคนควรรู้ได้แล้วว่าเรายังไม่ได้เริ่มอะไรเลย
ต่อมากระทรวงกลาโหมอังกฤษรายงานด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่กองทัพรัสเซียกำลังขนอาวุธยุทโธปกรณ์มายังแนวรบมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เมืองซีเวียร์สที่อยู่ห่างจากแนวรบและเส้นอาณาเขตจังหวัดลูฮานสก์ที่รัสเซียยึดครองอยู่ไปประมาณ 8 กิโลเมตร และรัสเซียอาจจะเปิดฉากการรุกต่อหากกระบวนการฟื้นกำลังเสร็จสิ้น ซึ่งอาจเป็นการรุกพร้อมๆกันเข้าสู่จังหวัดโดเนตสก์
ส่วนนายเซอร์เก ไฮดาย ผู้ว่าการจังหวัดลูฮานสก์ยูเครน รายงานว่า สถานการณ์ในเมืองเซเวโรโดเนสก์ เมืองเอกของจังหวัดที่ถูกรัสเซียยึดครองไปนั้น กำลังใกล้จะกลายเป็นวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม อาคารบ้านเรือนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ พังทลายหรือได้รับความเสียหาย ไม่มีน้ำ แก๊ซ หรือไฟฟ้า เนื่องจากกองทัพรัสเซียได้ยิงทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมืองจนหมดสิ้นซึ่งยากที่จะซ่อมแซม เพราะขนาดในช่วงสงบสุขการซ่อมแซมความเสียหายระดับนี้ อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ถึง 1 ปี
...
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ปัญหาโรงบำบัดน้ำเสียไม่ทำงาน ทำให้น้ำเสียเริ่มทะลัก ส่งกลิ่นเน่าเหม็น คลุ้งปนกับกลิ่นศพที่ถูกทิ้งไว้ตามอาคารบ้านเรือน จากการประเมินขณะนี้เชื่อว่ามีชาวบ้านเหลืออยู่ในเมืองประมาณ 15,000 คน อย่างไรก็ตาม สื่อตะวันตกระบุด้วยว่า คำกล่าวอ้างนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน.