นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีโอกาสที่จะชนะศึกชิงชัยเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 24 เม.ย. เพิ่มขึ้น หลังการประชันวิสัยทัศน์โต้วาทีกับคู่แข่งนางมาริน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรคชาตินิยมขวาจัด ครั้งแรกและครั้งเดียวในคืนวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา มีผู้ชมทางบ้านกว่า 59 เปอร์เซ็นต์ มองว่านายมาครงมีความน่าเชื่อถือมากกว่า ซึ่งกรณีนี้คล้ายกับการดีเบตชิงชัยครั้งศึกเลือกตั้งปี 2560 ที่ผู้ชมทางบ้านกว่า 63 เปอร์เซ็นต์ มองว่านายมาครงน่าเชื่อถือกว่านางเลอเปน และส่งผลให้การเลือกตั้งในปีนั้น คว้าชัยชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงสนับสนุน 66.1 เปอร์เซ็นต์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน การโต้วาทีระหว่างสองผู้สมัครเป็นไปอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายผลัดกันปรามด้วยถ้อยคำว่า อย่ามาขัดจังหวะ อย่ามาสั่งสอน อย่ายกเรื่องต่างๆมาผสมปนเปกัน โดยนายมาครงโจมตีนางเลอเปนว่าเป็นลูกสมุนนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย หลังพรรคของนางเลอเปนเคยกู้เงินจากธนาคารรัสเซีย รวมถึงโจมตีว่านางเลอเปนหวังดึงฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป ส่วนนางเลอเปนโต้คำวิจารณ์เหล่านี้ พร้อมนำเสนอว่าตัวเองจะทำให้ชาวฝรั่งเศสอยู่ดีกินดีกว่าสมัยของนายมาครง ทั้งนี้ โพลนิยมระหว่างนายมาครงกับนางเลอเปนอยู่ที่ 56-44 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุด้วยว่า ผู้ตอบโพลราว 14 เปอร์เซ็นต์ รอฟังการดีเบตครั้งนี้เพื่อตัดสินใจลงคะแนน และอีก 12 เปอร์เซ็นต์ รอฟังเพื่อตัดสินใจว่าจะใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่.