บางครั้งการทำเรื่องราวอะไรบางอย่างที่หลายคนคิดว่าน่าจะดี น่าจะสร้างความสุขให้กับทั้งตนเองและผู้อื่น ก็อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เผลอๆจะเข้าทำนองมีแต่เราน่ะสุข แต่คนอื่นเขาอาจทุกข์ทนก็เป็นได้ อย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับหนุ่มชาวเคนตักกี ในสหรัฐอเมริกา นามว่า เควิน เบอร์ลินิง พนักงานของบริษัทด้านปฏิบัติการทางการแพทย์แห่งหนึ่ง ที่มีเรื่องมีราวฟ้องร้องบริษัทที่เขาทำงานอยู่ชนวนเหตุของการต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ต้องย้อนกลับไปในเดือน ส.ค.2562 เมื่อรู้ว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะจัดงานฉลองวันเกิดให้กับพนักงานในออฟฟิศ นายเควิน เบอร์ลินิง เลยรีบไปแจ้งต่อผู้จัดการสำนักงานก่อนเลย ว่าไม่ต้องการให้บริษัทจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับตน เพราะการเลี้ยงฉลองแบบนี้จะทำให้เขามีอาการเสียขวัญหวั่นกลัวขึ้นมาเพราะเป็นโรควิตกกังวล แต่บริษัทกลับเพิกเฉยต่อคำร้องขอนี้ แถมเดินหน้าจัดฉลองวันเกิดเลี้ยงอาหารกลางวันให้เขาในวันที่ 7 ส.ค.62 ทำให้เจ้าตัวหัวเสียและรู้สึกทุกข์ทรมานกับอาการวิตกตื่นตระหนกเป็นกังวลของตนเอง ซึ่งในวันเกิดของเขาวันนั้น เบอร์ลินิง ก็เลยรีบออกไปข้างนอกและจัดการกับอาหารกลางวันในรถยนต์ของตน จากนั้นก็ส่งข้อความไปถึงผู้จัดการว่า คุณผู้จัดการไม่สามารถตอบสนองคำร้องขอของเขาได้หนึ่งวันหลังจากนั้น เบอร์ลินิงก็ถูกเรียกเข้าประชุมไปเผชิญหน้าและคำวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเขาระบุว่าการเผชิญหน้าครั้งนั้นโจมตีจิตใจเขายิ่งนัก และในวันที่ 11 ส.ค.ของปีนั้นเขาก็ได้รับจดหมายบอกเลิกจ้างงาน โดยบริษัทระบุว่าเขาเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของเพื่อนร่วมงาน เพราะใช้ความรุนแรงในที่ประชุม และ 1 เดือนต่อมา เบอร์ลินิง ตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัทในข้อหาเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่มีความบกพร่องของสภาพจิต ที่ศาลเคนตัน เคาน์ตี ด้านทนายความ ของเบอร์ลินิงก็ย้ำว่าลูกความของเขาไม่ได้คุกคาม “ผมคิดว่าสิ่งสำคัญสำหรับนายจ้างคือพวกเขาต้องเข้าใจว่าไม่ควรตั้งสมมติฐาน เกี่ยวกับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพจิต”คดีนี้สู้กันนานถึง 4 ปี และเมื่อ 31 มี.ค. คณะลูกขุนสหรัฐฯ ก็ตัดสินให้เบอร์ลินิงได้รับเงินชดเชยจากการสูญเสียรายได้และการได้รับความทุกข์ทางอารมณ์ ได้รับความอับอาย สูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง รวมแล้วเป็นเงินเหนาะๆ 450,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 15.2 ล้านบาท.ภัค เศารยะ