หากเป็นแฟนภาพยนตร์แอนิเมชัน เชื่อว่าต้องรู้จัก ตัวละครสุดป่วนจอมขโมยซีนอย่างเจ้า “สแครท” กระรอกฟันเหยินเจ้าปัญหา จากเรื่อง “ไอซ์ เอจ” หรือที่มีชื่อไทยว่า “เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์” ที่วันๆเอาแต่วิ่งไล่ล่า “ลูกโอ๊ค” จนเกิดเรื่องโกลาหลอลหม่าน ทำโลกยุคดึกดำบรรพ์สั่นสะเทือน จนพังไปทั้งภูเขาน้ำแข็ง โดยที่ผู้ชมทั่วโลกไม่ล่วงรู้เลยว่าสุดท้ายแล้ว “สแครท” จะสมความปรารถนาหรือไม่แต่หลังจากไล่ล่า “ลูกโอ๊ค” มานาน 20 ปี ในที่สุด “บลู สกาย สตูดิโอ” ทีมศิลปินอัจฉริยะผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มารวมตัวกันเพื่อถ่ายทำฉากสุดท้ายเพียงช็อตเดียว และโพสต์คลิปที่เผยว่าเจ้าสแครทสมหวังได้กินลูกโอ๊คสำเร็จในที่สุด ก่อนเดินจากไป อาจเปรียบได้ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ปิดตำนานกระรอกเจ้าปัญหา เป็นการกล่าวอำลาแฟนภาพยนตร์ทั่วโลก หลังจากโฆษกของดิสนีย์ออกมายืนยันการปิดบลู สกาย สตูดิโอ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว จากพิษของโควิด-19 และการควบรวมกิจการที่ดิสนีย์ซื้อกิจการของฟ็อกซ์คริส เว็ดจ์ ผู้ก่อตั้งบลู สกาย สตูดิโอ เผยว่า ตัวละคร “สแครท” เป็นมาสคอตอย่างเป็นทางการของสตูดิโอ พร้อมๆกับที่ตัวละครจอมป่วนตัวนี้ได้กลายเป็น “ไอคอน” ในโลกภาพยนตร์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เว็ดจ์ ยังเขียนอำลาแฟนๆ แอนิเมชันทั่วโลกอย่างซาบซึ้งด้วยว่า “ตลอด 34 ปีที่ผ่านมา พวกเราก็เหมือนกับตัวละคร “สแครท” ที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว สามารถไขว่คว้าบางสิ่งที่ดูเหมือนไม่น่าจะทำสำเร็จได้ ครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าน่าเสียดายที่ไม่อาจยึดมั่นในสิ่งใดได้ตลอดไป ที่ผ่านมาเราสนุกกับโอกาสในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ของเราที่มีชีวิตชีวามากเกินกว่าใคร และหวังว่าทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความสุขนั้น และขอขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ”นอกเหนือจาก “ไอซ์ เอจ” แล้ว บลู สกาย สตูดิโอ ยังฝากฝีมือระดับพระกาฬในเรื่อง “ด็อกเตอร์ซูส’ฮอร์ตัน เฮียร์ส อะ ฮู!”, “ริโอ”, “ริโอ 2”, “เดอะ พีนัทส์ มูฟวี” และ “สปายส์ อิน ดิสไกส์” เป็นต้น แต่แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทำรายได้รวมทั่วโลกกว่า 5,700 ล้านดอลลาร์ ก็ยังหนีไม่พ้นการปิดตัว.อมรดา พงศ์อุทัย