ประธานาธิบดียูเครนประณามกองทัพรัสเซียปิดล้อมเมืองมาริอูโปล ชาวบ้านกว่า 4 แสนคนอยู่ในวงล้อม ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปานาน 2 สัปดาห์แล้ว แถมมีผู้อพยพกว่า 4 พันคน ถูกรัสเซียคุมตัวเข้าค่ายคัดกรอง และส่งเข้าไปในรัสเซีย ผู้สื่อข่าวตะวันตกเร่งตรวจสอบโรงเรียนศิลปะที่มีผู้หลบภัย 400 คนถูกถล่มมีคนติดในซาก กลาโหมรัสเซียเตือนกลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงในยูเครนมีแผนโจมตีอาคารปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่การทูตต่างชาติ ทั้งสหรัฐฯและชาติตะวันตกแล้วป้ายสีให้รัสเซีย พร้อมกล่าวหารัฐบาลยูเครนรับรู้เรื่องแต่นิ่งเฉย นักรบอาสาซีเรียประกาศพร้อมเข้าร่วมรบให้รัสเซีย รอแค่ไฟเขียว

เกิดความกังวลว่าจะกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมหมู่ หลังวันที่ 25 ของสงครามยูเครน-รัสเซีย มีรายงานว่า กองทัพรัสเซียทิ้งระเบิดถูกโรงเรียนที่มีชาวยูเครนหลบภัยอยู่กว่า 400 คน แต่นักข่าวยังไม่สามารถเข้าไปยืนยันข้อเท็จจริงได้ ทราบข้อมูลจากเทศบาลท้องถิ่นว่า มีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ขณะที่ฝ่ายรัสเซียอ้างกลุ่มหัวรุนแรงในยูเครนอาจจัดฉากโจมตีเจ้าหน้าที่ทูตตะวันตก เพื่อใช้ต่อรองขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. พล.ต.อิกอร์ โคนาเชงคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ชี้แจงว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพรัสเซียในยูเครนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องมีการยิงจรวดร่อนรุ่น “คาลิเบอร์” จากกองเรือทะเลดำ และการยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่น “คินซาล (มีดสั้น)” จากคาบ สมุทรไครเมียทางภาคใต้ โจมตีเป้าหมายทางการทหารของยูเครนตลอดค่ำคืนก่อนไปจนถึงช่วงเช้า ประสบความสำเร็จทำลายโรงงานซ่อมแซมยานเกราะของยูเครนในเมืองนิซิน ทางภาคเหนือของยูเครน คลังเก็บน้ำมันต่างๆของกองทัพยูเครน รวมถึงศูนย์รวมพลนักรบอาสาต่างชาติในพื้นที่กรุงเคียฟ ถือเป็นการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงต่อเนื่องจากวันก่อน ที่ยิงทำลายคลังเก็บอาวุธใต้ดินทางภาคตะวันตกของยูเครน

...

พล.ต.โคนาเชงคอฟยังกล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียได้รับข้อมูลจากนายทหารหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) ที่ยอมจำนนต่อทหารรัสเซียว่า กลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงในยูเครนกำลังมีแผนการที่จะโจมตีอาคารปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่การทูตต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือชาติตะวันตกในพื้นที่ภาคตะวันตกของยูเครน โดยเฉพาะในเมืองลวิฟ พร้อมกล่าวหาด้วยว่ารัฐบาลยูเครนรับรู้เรื่องนี้ แต่นิ่งเฉย เนื่องจากมีเป้าหมายว่า การโจมตีดังกล่าวจะทำให้รัสเซียรับความผิดไปเต็มๆ ทั้งยังสามารถใช้เป็นเครื่องต่อรองให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธช่วยเหลือเพิ่ม หรือถึงขั้นหวังให้ชาติตะวันตกตัดสินใจประกาศเขตห้ามบิน No-Fly Zone เหนือน่านฟ้ายูเครน

ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษ ยังคงสรุปสถานการณ์การสู้รบวันต่อวันระบุว่า กองทัพรัสเซียโอบล้อมเมืองต่างๆของยูเครนได้มากขึ้น เลือกที่จะไม่ส่งกำลังทหารเข้าเมือง แต่ใช้การยิงถล่มแบบไม่เลือกเป้า สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตพลเรือนเป็นวงกว้างมีแนวโน้มว่ากองทัพรัสเซียจะใช้กลยุทธ์ยิงถล่มจากระยะไกลต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียกำลังพล แต่ย่อมทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตเพิ่มไปเรื่อยๆ

ด้านสถานการณ์ที่เมืองท่ามาริอูโปล เมืองยุทธศาสตร์เส้นทางคมนาคมทางภาคใต้ของยูเครน ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียเคลื่อนพลถาโถมเข้าไปในตัวเมืองแล้วนั้น ทางเทศบาลท้องถิ่นเปิดเผยว่า โรงเรียนศิลปะจี 12 ที่มีชาวบ้านทั้งผู้หญิง เด็ก และคนชรากว่า 400 คนหลบภัยอยู่ ถูกกองทัพรัสเซียทิ้งระเบิดโจมตี มีเหยื่อเคราะห์ร้ายติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่ยังไม่แน่ใจว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด สื่อมวลชนชาติตะวันตกระบุว่ายังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่เพื่อยืนยันคำกล่าวอ้างได้ ก่อนรายงานด้วยว่าโรงงานเหล็กอาซอฟสตาลหนึ่งในโรงงานเหล็กที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในเมืองมาริอูโปล ถูกกองทัพรัสเซียทิ้งระเบิดพังเสียหาย เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยูเครนอย่างหนัก

นอกจากนี้ เทศบาลท้องถิ่นเมืองมาริอูโปล ยังเปิดเผยว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้อพยพออกจากเมืองประมาณ 4,000-4,500 คน ถูกกองทัพรัสเซียควบคุมตัวพาไปยังค่ายคัดกรอง ที่จะมีการตรวจสอบเอกสารและข้อมูลในโทรศัพท์ จากนั้นจึงพาขึ้นรถไปยังรัสเซีย และส่งไปอยู่ตามหมู่บ้านที่ห่างไกลในรัสเซีย ทั้งยังอ้างด้วยว่า ทหารรัสเซียอยู่ระหว่างการบุกค้นตามที่อยู่อาศัยในเมืองมาริอูโปลอย่างละเอียด หากพบชาวบ้านหลงเหลืออยู่จะส่งตัวไปยังค่ายคัดกรองก่อนส่งไปรัสเซียอีกต่อหนึ่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานบทสัมภาษณ์นายนาบิล อับดุลเลาะห์ ผู้บัญชาการหน่วยอาสาป้องกันชาติซีเรีย (NDF) ถึงกรณีนักรบอาสาซีเรียเตรียมเดินทางมาช่วยรัสเซียรบยูเครนว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างรอคำยืนยันจากรัฐบาลซีเรียและรัฐบาลรัสเซีย หากมาเมื่อไรก็พร้อมเข้าร่วมสงครามอันชอบธรรมครั้งนี้ เราพร้อมจะแสดงฝีมือให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เราจะทำสงครามในตัวเมืองและนำกลยุทธ์ที่เราเคยใช้ปราบกลุ่มก่อการร้ายในสงครามซีเรียมาประยุกต์ใช้ อย่างไรก็ตาม การติดต่อสอบถามไปยังรัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลซีเรียไม่ได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้กองกำลังเอ็นดีเอฟเป็นหน่วยรบที่สนับสนุนนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีเผด็จการซีเรีย และเคยประสบความสำเร็จในการบุกยึดครองฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏซีเรียตามเมืองต่างๆ โดยมีกองทัพอากาศรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุน

ต่อมานายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกแถลงการณ์ว่า ปฏิบัติการปิดล้อมเมืองมาริอูโปล คือความโหดเหี้ยมอันน่าสะพรึงกลัว จะถูกประวัติศาสตร์จดจำไปอีกหลายร้อยปี ในฐานะเหตุอาชญากรรมสงคราม หลังชาวบ้านกว่า 400,000 คน ตกอยู่ในวงล้อมกองทัพรัสเซียนานกว่า 2 สัปดาห์ ภายใต้การถูกระดมยิงด้วยปืนใหญ่ ทิ้งระเบิด โดยไม่มีกระแสไฟฟ้าสำหรับทำความร้อนและไม่มีน้ำประปาใช้ ถึงตอนนี้หน่วยกู้ภัยยังออกค้นหาเหยื่อที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ยังไม่มีใครทราบยอดเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลยูเครนต้องเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย แม้จะเป็นเรื่องไม่รื่นรมย์และยากลำบาก

...