นอกเหนือจากอินโด-แปซิฟิก และยุโรปตะวันออกแล้ว จุดฮอตสปอตอย่างภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็ยังคงความขัดแย้งอยู่ร่ำไป ขึ้นอยู่ว่าจะถูกหยิบยกมาอยู่ในกระแสข่าวหรือไม่...ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีความคืบหน้าของสถานการณ์สงครามกลางเมืองใน “เยเมน” ระหว่างขั้วรัฐบาลที่ซาอุดีอาระเบียหนุนหลัง ปะทะกับกลุ่มติดอาวุธฮูธิ ที่อิหร่านสนับสนุน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 7 ปี

แน่นอนว่าถึงสถิติ (ของสหประชาชาติ) จะบ่งชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงแล้วกว่า 377,000 คน แต่ย่อมไม่อยู่ในเป้าความสนใจ ด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ เป็นสมรภูมิงัดข้อกันระหว่าง ขั้วอำนาจอาหรับ-เปอร์เซีย ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ “ตำรวจโลก” ก็ยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้ โดยยังคงปฏิเสธที่จะชี้แจงว่าเข้าไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนในสงครามกลางเมืองเยเมนที่เต็มไปด้วยข้อครหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะความสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีเยเมน ของกลุ่มพันธมิตรอาหรับ

และความขัดแย้งที่เยเมนมีท่าทีว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง นสพ.วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานล่าสุดว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียอยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อขีปนาวุธต่อต้านอากาศชั้นสูง “แพทริออต” จากสหรัฐฯเพิ่มอีกหลายร้อยลูก หลังสต๊อกของที่มีอยู่เริ่มร่อยหรอไปเรื่อยๆ เนื่องจากในสงครามช่วงหลัง ฝ่ายต่อต้านในเยเมนมีขีดความสามารถในการรบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มีการใช้ฝูงโดรนไร้คน รวมถึงขีปนาวุธพิสัยใกล้ โจมตีใส่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมันของซาอุฯ แหล่งข่าวความมั่นคงเผยว่า ในเดือน พ.ย. ซาอุฯถูกโดรนไร้คนโจมตีอย่างน้อย 29 ครั้ง ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ 11 ครั้ง ซึ่งอัตราการโจมตีเฉลี่ยต่อเดือนตลอดปี ถือว่าเพิ่มขึ้นมากหากเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา แน่นอนว่า งานนี้แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯเผยกับวอลล์ สตรีทว่า พร้อมจะอนุมัติการขายครั้งนี้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะขายให้โดยตรง หรือให้ซื้อผ่านชาติพันธมิตรตะวันตกในยุโรปแล้วสภาค่อยลงมติรับรองอีกต่อหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสเคยลงมติ ยุติสนับสนุนการทำสงครามของซาอุฯเมื่อปี 2562 และในเดือน ม.ค.2564 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ประกาศระงับการขายอาวุธให้ซาอุฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีไปแล้ว เผลอๆเรื่องนี้อาจกลายเป็นเหตุปากว่าตาขยิบรอบใหม่.

...

ตุ๊ ปากเกร็ด