มีการศึกษาพบว่าสิงโตถ้ำอยู่ร่วมกับมนุษย์ยุคแรกๆเป็นเวลาหลายพันปี ตัวอย่างเช่น ถ้ำโชเวต์ (Chauvet Cave) ในฝรั่งเศส ที่มีภาพวาดสิงโตบนผนังถ้ำ ซึ่งภาพเขียนในถ้ำยุคแรกๆนั้นมีอายุประมาณ 30,000 ปี ส่วนสิงโตถ้ำนั้นได้สูญพันธุ์ไปหลายพันปีแล้ว บอริสเมื่อเร็วๆนี้มีผลวิจัยลงวารสาร Quaternary เกี่ยวกับลูกสิงโตถ้ำยูเรเชีย (Panthera Spelaea) 2 ตัวอายุ 1-2 เดือน ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีจนยังคงมีขน อวัยวะภายใน และโครงกระดูก อยู่ในเพอร์มาฟรอสท์ (permafrost) หรือชั้นดิน แข็งถาวร ในภูมิภาคยาคูเตียของดินแดนไซบีเรียแห่งรัสเซีย นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าซากลูกสิงโตถ้ำเหล่านี้ฝังอยู่ห่างกัน 15 เมตร ไม่ใช่ครอกเดียวกัน และยังเกิดห่างกันหลายพันปี ลูกสิงโตตัวเมียชื่อ สปาร์ตา มีชีวิตอยู่เมื่อ 28,000 ปีก่อน และดูเหมือนมีร่องรอยของน้ำนมแม่ของมันอยู่ ถูกพบที่แม่น้ำ Semyuelyakh ในยาคูเตียเมื่อ พ.ศ.2561 ส่วนลูกสิงโตตัวที่ 2 ชื่อบอริส ถูกพบเมื่อปีก่อนหน้านั้นอายุ 43,448 ปี วาเลอรี พล็อตนิคอฟ นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาซากลูกสิงโตถ้ำเหล่านี้เผยว่า แม้น้ำนมของแม่สิงโตถ้ำบางส่วนจะสลายไปแล้ว แต่ถ้ายังหลงเหลือร่องรอยอยู่บ้างก็จะช่วยให้เข้าใจถึงอาหารของแม่สิงโตทั้งนี้ ซากลูกสิงโตถ้ำถูกพบโดยนักสะสมงาแมมมอธ และยังมีการค้นพบลูกสิงโตอีก 2 ตัวชื่อ Uyan และ Dina ในภูมิภาคเดียวกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การค้นพบคล้ายๆกันในพื้นที่ไซบีเรียของรัสเซียเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ดินแดนแถบอาร์กติกอุ่นขึ้นเร็วกว่าส่วนอื่นๆของโลก ส่งผลให้เกิดการละลายชั้นดินแข็งตามมา.(ภาพ) สปาร์ตา