แม้จะผ่านไปแล้วถึง 6 วัน แต่การฉลองครบรอบ 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ยังเป็นที่กล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย ตอนตั้งพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเป็นทางการเมื่อ 1 กรกฎาคม 1921 คอมมิวนิสต์จีนใช้รูปแบบของสหภาพโซเวียตเป็นตัวอย่างในการพัฒนา แต่ภายหลังเลิกใช้พรรคคอมมิวนิสต์ที่ตั้งในเวลาใกล้กันก็คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งอินเดีย ซึ่งตั้งเมื่อ ค.ศ.1926 แต่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งอินเดียล้มเหลว เพราะตอนหลังแตกเป็น 2 พรรคคือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งอินเดีย (มาร์กซิสต์) หรือ CPM (M) และพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอินเดีย (มาร์กซิสต์-เลนินิสต์) หรือ CPM (M-L)พรรคบอลเชวิคปฏิวัติรัสเซียสำเร็จเมื่อ ค.ศ.1917 นักศึกษาจีนเดินขบวนประท้วงรัฐบาลจีนเมื่อ 4 พฤษภาคม 1919 สังคมจีนวุ่นวายแตกแยก เหมา เจ๋อตง หลิว เซ่าฉี และหลี่ หลี่ซาน รวบรวมกลุ่มแรงงานในเมืองเข้าด้วยกัน ประกาศตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในฐานะทายาทของสหพันธ์เยาวชนสังคมนิยม โดยจัดประชุมครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อ ค.ศ.1921พรรคดำเนินนโยบายตามคำแนะนำขององค์การคอมมิวนิสต์สากลคือ ใช้กรรมกรในเมืองใหญ่เป็นแกนนำในการปฏิวัติ แต่ตอนหลังเหมาตัดสินใจใช้ชาวนาแทนกรรมกร เหมารวบรวมกรรมกรก่อกบฏที่มณฑลหูหนาน แต่ไม่สำเร็จจึงถูกไล่ออกจากพรรคถูกขับออกจากพรรคแล้ว เหมาก็นำกำลังพลของตนไปตั้งที่ภูเขาจิ่งกัง มณฑลเจียงซี ชายแดนมณฑลหูหนานและกว่างซี กระทั่งถึง ค.ศ.1928 จู เต๋อก็พากองทัพแดงและชาวนาที่ยากไร้มาร่วมด้วย โดยดำเนินการปฏิวัติใต้ดินการประชุมสมัชชาคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 6 ที่กรุงมอสโก ค.ศ. 1928 ที่ประชุมให้พรรคคอมมิวนิสต์ทุกแห่งยึดกรรมกรเป็นแกนนำปฏิวัติ แต่พวกคอมมิวนิสต์จีนไม่ปฏิบัติตามและหันไปรวมพลังชาวนาในชนบทแทน ตอนนั้นเจียง ไคเชก ปราบคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรง เหมาและพวกจึงต้องหนีและเป็นที่รู้จักกันในนาม Long March หรือการเดินทัพทางไกล การเดินทัพทางไกลที่เริ่มเมื่อ ค.ศ.1934 ทำให้เหมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอยู่ในตำแหน่งนี้จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ ค.ศ.1976 เหมาใช้นโยบายการรบแบบกองโจรและต่อต้านจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นเพื่อรวมจีน ตอนที่นำขบวนออกเดินทัพทางไกล กองทัพของเหมามีกำลังพลมากถึง 1 แสนคน แต่เส้นทางอันทุรกันดารและความยากลำบากทำให้กำลังพลป่วยเจ็บล้มตายระหว่างทางเป็นจำนวนมาก เมื่อสิ้นสุดการเดินทางที่ภาคเหนือของจีน กองทัพคอมมิวนิสต์เหลือกำลังพลเพียงแค่ 8,000 คนเท่านั้นสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคกว๋อหมินตั่ง กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคกว๋อมินตั่งไม่มีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะดูแลประเทศอย่างไร แถมยังมีข่าวการทุจริตคอร์รัปชันสูง แม้ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติมากแต่ก็ไม่แข็งแรงส่วนพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีแผนปฏิรูปที่ดินและสวัสดิการประชาชน จึงได้รับการสนับสนุนจากกรรมกรและชาวนา ในที่สุด พวกกว๋อมินตั่งแพ้และต้องหนีไปตั้งสาธารณรัฐจีนที่ฟอร์โมซาหรือไต้หวัน พวกคอมมิวนิสต์ก็ตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อ 1 ตุลาคม ค.ศ.1949เหมาคิดไม่เหมือนโซเวียต จึงเร่งพัฒนาประเทศในแบบของตนเอง เช่น ตั้งคอมมูนเพื่อเพิ่มผลผลิต และสร้างแผนการก้าวกระโดดไปข้างหน้า แต่ก็ไม่สำเร็จ ระหว่าง ค.ศ. 1966-1976 มีการต่อสู้ระหว่างพวกคอมมิวนิสต์จีนซ้ายสุดของเหมากับพวกที่ไม่เห็นด้วย เช่น หลิว เซ่าฉี เติ้ง เสี่ยวผิง ฯลฯ ช่วงนี้นี่แหละครับที่เรียกว่าการปฏิวัติวัฒนธรรม พอโจว เอิ้นไหล และเหมา ถึงแก่อสัญกรรม พวกแก๊งสี่คน รวมทั้ง เจียง ชิง ภรรยาหม้ายของเหมาก็ถูกจับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เติ้งก็ผงาดขึ้นมามีอำนาจและนำแผนสี่ทันสมัยมาใช้แทนนโยบายของเหมา สี่ทันสมัยประกอบด้วย การพัฒนาด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการป้องกันประเทศผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อจากเหมาก็คือ ฮั่ว กว๋อเฟิง จากนั้นก็เป็น หู เย่าปัง เจ้า จื่อหยาง เจียง เจ๋อหมิน ผู้นำพรรคเหล่านี้ล้วนแต่สนิทกับเติ้งทั้งสิ้น ผู้นำปัจจุบันซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคคือ สี จิ้นผิง ค.ศ.2021 พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีสมาชิก 95,148,000 คนรับใช้เรื่องพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพียงเท่านี้ก่อนครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com