สมาคมครูน่าน เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด “มองโลก มองไทย ก้าวต่อไปของการศึกษาเพื่ออนาคต” รับใช้ผู้บริหารสถานศึกษาที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 และเขต 2 จำนวน 280 คน จันทร์วันนี้ 13.00-15.00 น. ที่โรงเรียนบ้านนาวงศ์ ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน

ขออนุญาตเขียนถึงการบริหารเศรษฐกิจภายในของจีนจากประสบการณ์จริงหน่อยครับ ต้นปี 2563 มีวิกฤติโควิด-19 ระบาดที่นครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ นักลงทุน นักธุรกิจ รวมทั้งผู้คนทั่วไปที่กลัวโรคระบาดต่างหนีจากนครอู่ฮั่น แต่อาจารย์นิติภูมิธณัฐแนะนำว่าต้องรีบบุกอู่ฮั่น เพราะในวิกฤติร้ายแรงจะมีโอกาสที่ดีซ่อนอยู่เสมอ

เราตัดสินใจลงนามสร้างและตกแต่งภัตตาคารและสถานที่ขายสินค้าไทย ‘ไทยเฟเทอเรียนิธินาคิน์’ ที่ชั้น 5 ของ K-11 ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าหรูหราระดับ 6 ดาวของจีน การตัดสินใจเปิดสาขาที่ 3 ที่อู่ฮั่น ได้รับการต่อต้านจากหลายคนที่ทราบ

การตกแต่งภัตตาคารเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะพวกเราทุกคนอยู่ในประเทศไทย ด้วยฤทธิ์ของโควิด-19 ทำให้พวกเราไม่สามารถเดินทางเข้าจีนได้ ต้องใช้สมาร์ทโฟนเพื่อไลฟ์สดการตรวจงานทุกตรอกซอกมุม การจัดจ้างพนักงานที่ต้องมีมากถึง 80 คนก็ต้องสัมภาษณ์ผ่านโปรแกรมซูม การตกแต่งภายในก็ใช้วัสดุอุปกรณ์จากประเทศไทย ซึ่งต้องส่งไปทางเรือและเครื่องบิน

6 เดือนที่เต็มไปด้วยคำเตือนหลากหลาย แต่เราก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ภัตตาคารไทยเฟเทอเรียนิธินาคิน์ปักธงที่นครอู่ฮั่นซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีนให้ได้

กระทั่งวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00 น. ซึ่งเป็นวันเปิดแบบ Soft opening ที่ต้องทำพร้อมกับห้าง K–11 ซึ่งกำหนดให้ 12/12/2020 เป็นวันเปิดห้าง อาหารและเครื่องดื่มที่เตรียมไว้รองรับลูกค้าในช่วง 12 ชั่วโมง (11.00–22.00 น.) ขายหมดเกลี้ยงภายใน 2 ชั่วโมง ผู้คนแออัดยัดเยียดเข้าคิวกันมาทานที่ภัตตาคารที่ใหญ่ขนาด 660 ตารางเมตรของเรากันยาวเหยียด นี่คือฤทธิ์แห่งพลังการบริโภคภายในของจีนครับ

...

ย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ตอนนั้นผู้คนยังแขยงแขงขนอู่ฮั่น (ซึ่งเพิ่งเปิดเมืองเมื่อเดือนเมษายน 2563) ทว่านโยบายรัฐบาลมณฑลหูเป่ย์สั่งให้พลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการให้ธนาคารพาณิชย์เพื่อชนบทอู่ฮั่นให้เงินกู้ 5 พันล้านหยวนหรือ 2.18 หมื่นล้านบาทเพื่อให้มีการจัดเลี้ยงในอู่ฮั่น ใครที่ขายอาหารและเครื่องดื่มซึ่งให้บริการการจัดเลี้ยง ไปลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนด้านดอกเบี้ยจากรัฐบาลหูเป่ย์ได้โดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยาก

เฉพาะในอู่ฮั่นเพียงนครเดียว มีเจ้าของร้านอาหารและเครื่องดื่มมาลงทะเบียนรับการอุดหนุนมากถึง 5.1 หมื่นราย ทั้งหมดมีลูกจ้างรวมกันแล้วมากกว่า 5 แสนคน สำนักงานการเงินท้องถิ่นอู่ฮั่นต้องควักเงินมาอีก 6 หมื่นล้านหยวนหรือ 2.62 แสนล้านบาท อุดหนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เดิมคนไม่กล้าออกไปทานอาหารนอกบ้าน ก็ออกไปทานในปลายเดือนมิถุนายนมากขึ้นถึงร้อยละ 40 มีบริการการจัดส่งอาหารไปตามบ้านเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 80

เศรษฐกิจจีนที่รุ่งพุ่งกระฉูดในตอนนี้มาจากการที่รัฐบาลกลางจับมือกับรัฐบาลท้องถิ่นกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการทั้งลดทั้งยกเว้นดอกเบี้ยเงินกู้ ทั้งขยายการผ่อนชำระ ทั้งให้เงินเปล่าๆ กับวิสาหกิจท้องถิ่น จนกระทั่งเกิดการบริโภคภายใน เงินหมุนจากจุดหนึ่งไปอีกมากมายหลายร้อยหลายพันจุด อู่ฮั่นรอดจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำย่ำแย่มาได้

ไม่เฉพาะภัตตาคารของครอบครัวผมเพียงแห่งเดียวนะครับ แม้แต่ร้านชานมที่มาจากเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ชื่อฉาเอี๋ยนเย่วเซ่อ ที่ขยายกิจการออกจากมณฑลบ้านเกิดมาที่อู่ฮั่นเป็นเมืองแรก ก็มีคนมายืนเข้าคิวกลางแจ้งรอซื้อชากันนานถึง 8 ชั่วโมงกว่าจะได้เข้าร้าน

เมื่อเมืองจีนเปิดให้คนต่างชาติเดินทางเข้าไปได้ เชิญท่านผู้อ่านเข้าไปเยือนภัตตาคารของเราที่อยู่ใน 3 เมืองตอนนี้ ทั้งกุ้ยหลิน ฉางซา และอู่ฮั่นครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com