ไดโนเสาร์เคยเป็นสัตว์ที่ครอบครองทุกทวีปบนโลก และเป็นสัตว์ที่โดดเด่นในระบบนิเวศบนบก อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักบรรพชีวินวิทยา ว่าความหลากหลายของไดโนเสาร์นั้นลดลงก่อนที่พวกมันจะสูญพันธุ์ไป เนื่องจากการพุ่งชนโลกของดาวเคราะห์น้อยเมื่อ 66 ล้านปีก่อน
ล่าสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาธ และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ในอังกฤษ เสนอข้อมูลใหม่ที่หักล้างความเข้าใจเดิมๆ จากการรวบรวมลำดับวงศ์ตระกูลไดโนเสาร์ที่แตกต่างกัน และใช้แบบจำลองทางสถิติเพื่อประเมินว่าไดโนเสาร์กลุ่มหลักแต่ละกลุ่มยังสามารถผลิตสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้หรือไม่ในช่วงเวลาก่อนจะสูญพันธุ์ การศึกษาใหม่เผยแพร่ในวารสาร Royal Society Open Science ชี้ให้เห็นว่าไดโนเสาร์ไม่ได้ลดลงก่อนที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชน ซึ่งขัดแย้งกับการศึกษาก่อนหน้า การศึกษาใหม่ยังบ่งชี้ว่าหากไม่มีการชนเกิดขึ้น ไดโนเสาร์อาจยังคงเป็นกลุ่มสัตว์บกที่โดดเด่นบนโลกใบนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ข้อมูลของทีมวิจัยไม่ได้แสดงว่ามีการลดลงในความเป็นจริงของไดโนเสาร์บางกลุ่ม เช่น แฮโดรซอร์ (Hadrosaurs) และซอราท็อปเซียน (Cera-topsians) ที่เติบโตเฟื่องฟูและไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าพวกมันจะหายสิ้นไปเมื่อ 66 ล้านปีก่อนหากเหตุการณ์การสูญพันธุ์ไม่เกิดขึ้น ในขณะที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยังคงมีอยู่ในช่วงเวลาที่ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก ซึ่งการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ก่อเกิดช่องว่างให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเข้ามาเติมเต็มและครองโลกได้ในเวลาต่อมา.
(ภาพจาก : Pixabay/CCO Public Domain)