ความวัวยังไม่ทันหาย มีความควายเข้ามาแทรก คดีไม่มีความเห็นแย้งที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาด ไม่ฟ้องทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยังเป็นข่าวที่ครึกโครมไม่จางหาย ข่าวการฆ่ากัน 4 ศพ ในบ่อนพนันกลางกรุงเทพมหานครก็ระเบิดตูมขึ้นมาตามด้วยเสียงเรียกร้องให้เร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ
เสียงเรียกร้องปฏิรูปตำรวจ ไม่ใช่เพิ่งจะมีในยุคนี้ แต่มีมาช้านานหลายทศวรรษ รัฐบาลที่ผ่านๆมาตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจมาไม่รู้กี่คณะ เฉพาะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคณะกรรมการศึกษาเสนอแนะไม่น้อยกว่า 3 คณะ แต่ไม่ได้นำไปปฏิบัติ ทั้งๆที่เขียนบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศ
ทำไมจึงต้องปฏิรูปตำรวจต่อคำถามนี้ต้องฟังคำตอบจาก พ.ต.อ.วิรุศม์ ศิริสวัสดิบุตร ที่ทำการรณรงค์ปฏิรูปตำรวจอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้วยการเขียนหนังสือและให้สัมภาษณ์สื่อ เรียกร้องให้เริ่มต้นด้วยการแยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พนักงานสอบสวนมีอิสระไม่ให้ “นาย” สั่งเหมือนกองทัพ
การสอบสวนที่ไม่ถูกต้อง สอบสวนตามที่นายสั่ง นายบางคนสั่งให้ทำลายหลักฐาน เป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “คุกไว้ขังคนจน” ส่วนคนที่มั่งคั่งร่ำรวยรอดคดีบอสสำนวนสอบสวนของตำรวจ ระบุว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาไม่เมาและไม่ขับรถเร็ว แต่ ดต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เปลี่ยนช่องทางมาชน
เมื่อสำนวนการสอบสวนของฝ่ายตำรวจมีแค่นี้ ฝ่ายอัยการไม่รู้ว่าจะสั่งฟ้องอย่างไร จึงต้องสั่งให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม ทำให้ข้อหาบางข้อขาดอายุความ และมีการร้องขอความเป็นธรรมจากฝ่ายผู้ต้องหามากมาย จนคดีลากยาวมานานถึง 8 ปี แต่ก็ยังไม่ยุติ เมื่ออัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาด ไม่ฟ้องผู้ต้องหา คดีที่น่าจะยุติ กลับมาอื้อฉาวอีกครั้ง
...
ส่วนใหญ่เป็นผลพวงจากระบบสอบสวนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่รัฐธรรมนูญ 2560 เขียนบังคับไว้ว่าต้องปรับปรุงระบบการสอบสวนให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวนกับอัยการ การปฏิรูปต่างๆรัฐธรรมนูญขีดเส้นให้ทำให้เสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ผ่านมากว่า 3 ปี ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
จึงอาจเริ่มต้นด้วยการปฏิรูปการเมืองก่อน ให้การเข้าสู่อำนาจมาจากประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม แต่การปฏิรูปการเมืองจะต้องเริ่มต้นด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐบาลเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และยึดหลักกฎหมายคุ้มครองทุกคนโดยเสมอหน้า.