“เอธิโอเปีย” ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลในภูมิภาคจะงอยแอฟริกา มีประชากรเกือบ 100 ล้านคน ตกเป็นข่าวใหญ่ หลัง นายฮาชาลู ฮันเดสซา นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังถูกลอบยิงตายเมื่อ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
การตายของฮันเดสซา ซึ่งเป็น “ฮีโร่” ของชาว “โอโรโม” กลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของเอธิโอเปีย จุดชนวนประท้วงก่อจลาจลรุนแรงในหลายพื้นที่ รวมทั้งกรุงแอดดิส อะบาบา และภูมิภาค “โอโรเมีย” ดินแดนของชาวเผ่าโอโรโม มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 239 คน ส่วนใหญ่ 215 คน เป็นพลเรือน ที่เหลือเป็นตำรวจและกองกำลังติดอาวุธของชนเผ่าต่างๆที่ปะทะกันเอง ขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อจลาจลแล้วกว่า 3,500 คน
แม้ชาวโอโรโมจะเป็นชนส่วนใหญ่ แต่ถูกทอดทิ้งทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองจนมีสภาพยากจนข้นแค้นมายาวนาน ขณะที่นายฮันเดสซาเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ต่อสู้เพื่อชาวเผ่าโอโรโม
ดนตรีของฮันเดสซาถูกใช้เป็นเพลงซาวด์แทร็กในการลุกฮือประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ในปี 2561 ส่งผลให้รัฐบาลเก่าทิ้งอำนาจ และ นายอาบีย์ อาห์เหม็ด ผู้นำการประท้วง ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และเป็นผู้นำคนแรกที่เป็นชาวเผ่าโอโรโม
อาบีย์พยายามสร้างสันติภาพและเปลี่ยนผ่านเอธิโอเปียจากระบอบเผด็จการเป็นประชาธิปไตย จนได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2562 หลังลงนามข้อตกลงสันติภาพกับ “เอริเทรีย” ชาติเพื่อนบ้านที่รบกันมานาน แต่การที่เขาผ่อนคลาย “กฎเหล็ก” ทำให้การแย่งชิงอำนาจภายในทวีขึ้น ขณะที่ความรุนแรงด้านเชื้อชาติก็ปะทุขึ้นอีก
ในช่วงการประท้วงล่าสุด อาบีย์ถูกกล่าวหาว่ากลับไปใช้อำนาจเผด็จการเหมือนผู้นำรุ่นก่อนๆ หลังนักการเมืองฝ่ายค้านจำนวนมากถูกจับกุม รวมทั้งแกนนำ “แนวร่วมปลดปล่อยโอโรโม” (โอแอลเอฟ) 5 คน ชาวโอโรโมจำนวนมากยังเห็นว่าเขา “ทรยศ” ไม่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของพวกตนเท่าที่ควร
...
นอกจากปัญหาภายใน อาบีย์ยังเผชิญ “ศึกนอก” เรื่องการเติมน้ำเข้าเขื่อนขนาดยักษ์ที่เอธิโอเปียสร้างขึ้นที่แม่น้ำ “บลู ไนล์” ซึ่งถูกอียิปต์และซูดานเพื่อนบ้านคัดค้านอย่างหนัก ขณะที่การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในเดือน ส.ค.นี้ ต้องถูกเลื่อนออกไปเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อาบีย์ชี้ว่าการลอบสังหารฮันเดสซาและความรุนแรงที่ปะทุขึ้น คือส่วนหนึ่งของแผนก่อความไม่สงบเพื่อโค่นล้มตนเอง และอาจมีความขัดแย้งเรื่องเขื่อนกับอียิปต์และซูดานเกี่ยวข้องด้วย
ความท้าทายเหล่านี้จะเป็นบททดสอบฝีมือ “เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ” อีกครั้ง!
บวร โทศรีแก้ว