เมื่อ 9 มิ.ย. ศาลเกาหลีใต้ในกรุงโซลปฏิเสธคำร้องขอออกหมายจับนายเจย์ วาย. ลี ผู้บริหารทายาทซัมซุง กรุ๊ป ของฝ่ายอัยการ ที่กล่าวโทษในคดีฉ้อโกงบัญชีของบริษัทในเครือที่ผลิตยา ซัมซุง ไบโอลอจิกส์ ซึ่งมีบริษัท เชอิล อินดัสทรีส์ เป็นผู้ถือหุ้นหลัก และการควบรวมกิจการสองบริษัทในเครือเมื่อปี 2558 ในมูลค่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ระหว่างซัมซุง ซี แอนด์ ที คอร์ป กับบริษัท เชอิล อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้นายลีมีอำนาจบริหารบริษัทในเครือได้มากขึ้นด้วยกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลัก แต่กลุ่มนักวิจารณ์กลับมองว่าขัดผลประโยชน์ต่อผู้ที่ถือหุ้นรายเล็กรายน้อย
ขณะที่ทางซัมซุงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางฝ่ายอัยการก็จะยื่นขอออกหมายจับใหม่ หรือนำตัวนายลีมาสอบปากคำโดยไม่มีหมายจับ ด้านทีมทนายความของนายลี แถลงหวังว่าคดีนี้อาจจะผ่านการทบทวนจากคณะกรรมการนอกซึ่งอาจจะตัดสินได้ว่าควรดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับนายลีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลทำให้หุ้นในเครือของซัมซุง กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น ทั้งซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ หุ้นขึ้น 2% ซัมซุง ไบโอลอจิกส์ 2.4% และซัมซุง ซี แอนด์ ที คอร์ป 2.2% อนึ่ง นายลีเคยถูกตัดสินจำคุก 1 ปีและได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2561 ข้อหาติดสินบนให้ม้ากับลูกสาวคนสนิทของอดีตประธานาธิบดีหญิง ปาร์ก กึน-เฮ เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุนการควบกิจการ.