เมื่อ 14 พ.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณความสัมพันธ์ที่แย่ลงกับจีนจากวิกฤติโควิด-19 โดยเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ บิสซิเนส เน็ตเวิร์ก ว่าตนรู้สึกผิดหวังมากกับความล้มเหลวของจีนในการรับมือโรคดังกล่าว จีนไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นตนก็จะมีข้อตกลงการค้าที่ยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม เวลานี้ ตนไม่อยากพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แม้ย้ำว่ามีความสัมพันธ์ที่ดี แต่เรามีหลายอย่างที่ทำได้ เราตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดก็ได้ ซึ่งทำให้ประหยัดเงินที่หมายถึงสินค้านำเข้าจากจีนทุกปี 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 15 ล้านล้านบาท)
ขณะเดียวกัน นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยด้วยว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงอย่างมากกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงงานและสุขภาพของประชาชนชาวอเมริกัน ท่านประธานาธิบดีกำลังทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและปกป้องคนทำงานชาวอเมริกัน แต่จีนไม่ยอมให้เราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งสาธารณชนชาวอเมริกันมีสิทธิที่จะเข้าใจความจริงทั้งหมด ด้าน นสพ.เดอะ โกลบอล ไทม์ส ของจีน อ้างคำพูดของนายหลี่ ย่ง รองประธานคณะกรรมการผู้ชำนาญการของสมาคมการค้าระหว่างประเทศของจีนว่า รัฐบาลจีนยังคงหวังว่าเรื่องเศรษฐกิจและการค้าจะไม่มีการเมืองเพราะนั่นเป็นเรื่องไม่ดีไม่ว่าฝ่ายใด.