องค์การอนามัยโลก WHO ประกาศให้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” เป็น “โรคระบาดระดับโลก” ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ผู้นำโลกที่ทำงานได้รวดเร็วทันใจก็คือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ออกโทรทัศน์แถลงมาตรการเข้มข้นตามทันที สั่งระงับการเดินทางของทุกประเทศในยุโรปเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์ ที่ 13 มีนาคม เพื่อป้องกันผู้ป่วยรายใหม่เข้าสู่ชายฝั่งสหรัฐฯ ยกเว้น อังกฤษ แม้จะมีผู้ป่วย 460 คนแล้วก็ตาม ถือเป็นความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสหรัฐฯกับอังกฤษ
ในสถานการณ์วิกฤติ ผู้นำประเทศต้องตัดสินใจรวดเร็ว ที่สำคัญที่สุด ต้องฉลาดรู้ และ มีข้อมูลเชิงลึก เพื่อช่วยการตัดสินใจ ไม่ใช่นั่งรอรายงานจากกระทรวงโน้นกระทรวงนี้แล้วงงเอง
วันเสาร์สบายๆ วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของ มณฑลหูเป่ย เมืองต้นตอการระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” จนกลายเป็น “โรคระบาดโลก” จากการเปิบพิสดารของคนในเมืองนี้ที่ชอบกินสัตว์แปลก เช่น ค้างคาว เห็นแล้วก็สยอง นี่คือ ความ Barbarian ความป่าเถื่อนในความเจริญของจีน โดยเฉพาะ เมืองอู่ฮั่น ที่เป็นเมืองศูนย์กลางความเจริญของจีนตอนกลาง แต่วันนี้ผู้นำจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สั่งห้ามกินสัตว์แปลกแล้ว ไม่งั้นในอนาคตอาจเจอโรคระบาดที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19 ก็เป็นได้
อู่ฮั่น เกิดจากการรวมของ 3 เมืองในประวัติศาสตร์ เมืองอู่จาง ฮั่นโจว ฮั่นหยาง มาเป็น เมืองอู่ฮั่น เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศจีนช่วงเวลาสั้นๆ ในปี ค.ศ.1927 ภายใต้ฝ่ายซ้ายที่นำโดย จิงเว่ย ใน รัฐบาลก๊กมินตั๋ง ต่อมา ค.ศ.1937 ช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 เมืองอู่ฮั่นได้กลายเป็นเมืองหลวงของจีนเป็นเวลา 10 เดือน ปัจจุบันเป็น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย มีประชากรกว่า 11 ล้านคน เป็นนครที่มีประชากรมากที่สุดในภาคกลางของประเทศจีน
...
วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนมีนาคม ได้รายงานถึง เมืองอู่ฮั่น ในคอลัมน์ Money Monitor ว่า เมืองอู่ฮั่น เป็นเมืองที่ก้าวหน้าทันสมัย มีประชากร 11 ล้านคน เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งสำคัญของตอนกลางในประเทศจีน เป็นศูนย์กลางการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เป็นที่ตั้งของบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกในฟอร์จูน 500 กว่า 300 บริษัท ปีที่แล้ว 2019 จีดีพีเมืองอู่ฮั่นเติบโตถึง 7.8% ขณะที่จีดีพีประเทศจีนเติบโตเพียง 6.1% ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของเมืองอู่ฮั่นสูงกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ 6.3 ล้านล้านบาท เท่ากับจีดีพีของนิวซีแลนด์ทั้งประเทศ และมีการค้ากับต่างประเทศกว่า 35,000 ล้านดอลลาร์ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 62% ของมณฑลหูเป่ย
ด้วยยุทธศาสตร์ที่ตั้งใจกลางแผ่นดินใหญ่ ทำให้เมืองอู่ฮั่น เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของจีนตอนกลาง ทั้ง รถไฟความเร็วสูง ซุปเปอร์ไฮเวย์ ทางด่วน เส้นทางเดินเรือในแม่น้ำแยงซีเกียง เชื่อมต่อไปยังเมืองสำคัญอื่นๆ จากฝั่งตะวันออกไปยังตะวันตก จากภาคเหนือจดใต้ ทำให้ เมืองอู่ฮั่น เป็นศูนย์กลางรถไฟความเร็วสูงมากมาย กลายเป็นเมืองที่มีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่สุดในโลก ภายในรัศมี 1,200 กม.ของเมืองอู่ฮั่น มีการเชื่อมโยงกับประชากรกว่า 400 ล้านคน จากระบบการคมนาคมขนส่งที่รวดเร็ว รถไฟความเร็วสูงจากกรุงปักกิ่งมายังเมืองอู่ฮั่น ใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
ก็เลยไม่แปลกใจ ทำไมไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นจึงแพร่กระจายไปได้รวดเร็วขนาดนี้
จากการที่ เมืองอู่ฮั่น ได้รับการพัฒนาให้เป็น เมืองศูนย์กลางการคมนาคม เชื่อมทั้ง กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และ กวางเจา ชาวต่างชาติจึงขนานนาม เมืองอู่ฮั่น เป็น The Chicago of China นครชิคาโกแห่งประเทศจีน แม้แต่ โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Belt & Road ไปยังทวีปยุโรปก็ผ่านเมืองอู่ฮั่น การขนส่งสินค้าจากเมืองอู่ฮั่นไปยังตลาดยุโรปมีระยะทาง 12,000 กม. ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 20 วัน เทียบกับการขนส่งทางเรือที่ต้องใช้เวลา 45 วัน
หลังจากไวรัสคลี่คลายเป็นเมืองสุดท้ายในจีน อู่ฮั่น กำลังจะเปิดเมืองใหม่อีกครั้งในเร็วๆนี้ ผมเลยเอาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง ปลอดโรคเมื่อไหร่น่าไปเที่ยวครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”