หลังจากอยู่เมืองปูตาโอ 3 วัน ผมก็กลับมาที่เมืองมิตจีนาอีกรอบ มิตจีนาเป็นเมืองหลักของรัฐกะฉิ่น มิตจีนาในภาษาพม่าแปลว่า ‘ใกล้แม่น้ำใหญ่’ เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้บริเวณที่แม่น้ำสองสายไหลจากทางเหนือมารวมกันเป็นแม่น้ำสายใหม่ที่มีชื่อว่า ‘อิรวดี’

อังคารเมื่อวานผมรับใช้ไปว่า พ.ศ.2473 ชาวนาซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของพม่ามีหนี้สินมาก เศรษฐกิจของประเทศทรุด คนตกงาน สินค้ามีราคาสูง แต่ราคาข้าวเท่าเดิม หนี้ทำให้ชาวนาพม่าอยู่ในสภาวะกดดัน วันที่ 8-9 พฤษภาคม คนพม่าจึงลุกขึ้นมาฆ่าฟันคนอินเดียที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศของตนอย่างเอาเปรียบ เพียง 2 วันมีคนตายไปมากกว่า 300-500 คน บาดเจ็บเป็นพันคน

อย่างที่ผมเรียนไปเมื่อวันก่อนว่าอังกฤษเอาพวกอินเดียเข้ามาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำเป็นจำนวนมาก เศรษฐกิจทรุดผู้คนในรัฐบาลและสภารวมหัวกับนายทุนสูบความมั่งคั่งไปกองไว้ที่แต่เฉพาะพวกตน ผู้คนตกงานและก่ออาชญากรรมจนนักโทษล้นคุก ถึงต้องปล่อยนักโทษเก่าและเอานักโทษใหม่เข้าไปขัง พอถึงวันที่ 24 มิถุนายน ก็เกิดความวุ่นวายที่เรือนจำเมืองย่างกุ้ง นักโทษพม่าถูกฆ่าตายไป 3 คน บาดเจ็บ 60 คน

ความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับนายทุนที่ได้รับการเกื้อหนุนเป็นพิเศษจากรัฐบาลและสภารุนแรงขึ้น ผู้คนที่จนตรอกไม่มีอาหารกรอกกระเพาะก็ออกไปทำร้ายคนอินเดียด้วยความเคียดแค้น และลามปามไปจนทำร้ายคนจีน เพราะคนสองเชื้อชาตินี้ในสมัยนั้นทำธุรกิจในแผ่นดินพม่าอย่างเอาเปรียบ

การจลาจลใน พ.ศ.2473 มาจากเรื่องปากท้องของผู้คนแต่การจลาจลหลังจากนั้น มักจะเป็นเรื่องการเมือง รัฐบาลของ ดร.บามอว์พยายามระงับความคั่งแค้นของชาวพม่า ทว่าทำไม่สำเร็จ จึงมีเหตุการณ์ประท้วงพวกนายทุนอินเดียที่จะรวบธุรกิจทุกอย่างในแผ่นดินมาทำ แม้แต่พระสงฆ์ยังทนไม่ไหว

...

26 กรกฎาคม 2481 พระสงฆ์ประท้วงบริเวณเจดีย์ชเวดากองในย่างกุ้ง แล้วก็เดินไปกลางเมืองซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจของชาวอินเดีย ภาพของตำรวจพม่าเชื้อสายอินเดียสกัดจับพระ ทำให้คนพม่าที่อยู่ในสภาวะกดดันทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว พากันออกไปหาฆ่าฟันคนอินเดียมุสลิมอย่างบ้าคลั่ง

การไล่ล่าฆ่ากันลามจากกรุงย่างกุ้งไปภาคกลางและเหนือ จนถึงกลางเดือนกันยายน เหตุการณ์จึงสงบ คนอินเดีย (ส่วนใหญ่เป็นอินเดียมุสลิม) ตายไป 192 คน บาดเจ็บ 878 คน ส่วนตัวเลขของผู้ที่บาดเจ็บล้มตายจากการกระทำของตำรวจพม่า (ส่วนใหญ่มีเชื้อสายอินเดีย) 171 คน เป็นชาวพม่า 155 คน

การตระเวนเมียนมาภาคเหนือของผมและเพื่อนไลน์ไอดี @ntp59 ครั้งนี้ ผมมีโอกาสเข้าไปดูพิธีกรรมของโบสถ์คาทอลิกที่เมืองปูตาโอ และมีโอกาสสนทนากับมหาวาบัณฑิต ผู้ดูแลโบสถ์ฮินดูที่เมืองมิตจีนาในห้วงเวลาสั้นๆ ผมมองว่าปัญหาในอนาคตที่เมียนมาจะเผชิญ ไม่น่าจะมาจากเรื่องศาสนา แต่จะมาจากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

ขณะนี้ มีคนจีนเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในเมียนมาทุกหนแห่ง แม่น้ำบางสายไม่มีปลา เพราะเครื่องจักรจากแพหาแร่ทองคำมีเป็นร้อยแพ ส่งเสียงสนั่นลั่นผืนน้ำ น้ำในแม่น้ำก็สะเทือนเลื่อนไหวไปทั่วบริเวณ แม้แต่ปลาก็ยังทนอยู่ไม่ได้ น้ำในแม่น้ำหลายสายที่ชาวบ้านเคยตักมาบริโภค หลายแห่งใช้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะทั้งขุ่นและมีคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำ

เคยมีการก่อจลาจลทำร้ายคนจีนมาแล้วเมื่อ พ.ศ.2510 สาเหตุมาจากทั้งเรื่องอดีตซึ่งสมัยอาณาจักรพุกาม พม่าเป็นรัฐบรรณาการของจีน พอหยุดส่งก็โดนกองทัพจีนตี นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องที่หนุ่มสาวชาวจีนในพม่าติดเครื่องหมายเชิดชูประธานเหมา เจ๋อตง สาเหตุหลักมาจากความเหลื่อมล้ำระหว่างคนพม่ากับคนจีนที่อยู่ในพม่าที่มีมากกว่า 6 แสนคน (จำนวนไม่น้อยถือสองสัญชาติ ทั้งจีนและพม่า)

วันหน้าค่อยมารับใช้เรื่องในอดีตที่คนพม่าก่อจลาจลไล่คนจีนครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com