Hadrosaur eggshells. Credit : Darla Zelenitsky
เมื่อเร็วๆนี้ ทีมวิจัยนำโดย ศ.ฮาจิท แอฟเฟ็ก จากสถาบันวิทยาศาสตร์โลกแห่งมหาวิทยาลัยฮีบรูในกรุงเยรูซาเล็ม อิสราเอล เผยถึงการไขปริศนาที่สงสัยมานานว่าไดโนเสาร์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายอย่างไร และเป็นสัตว์เลือดอุ่นหรือสัตว์เลือดเย็น โดยใช้วิธีวัดอุณหภูมิในประวัติศาสตร์ เรียกว่า clumped isotope geochemistry มาวิเคราะห์พันธะทางเคมีในหมู่ไอโซโทปหนักในแร่แคลเซียม-คาร์บอเนตอันเป็นส่วนผสมหลักในเปลือกไข่ ช่วยคำนวณทั้งอุณหภูมิที่แร่ธาตุก่อตัวและอุณหภูมิร่างกายของแม่ที่วางไข่
สภาพอากาศทั่วโลกในยุคไดโนเสาร์นั้นอบอุ่นกว่าปัจจุบัน การวัดอุณหภูมิร่างกายไดโนเสาร์ที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรจึงบอกไม่ได้ว่าร่างกายเป็นแบบดูดความร้อน (endothermic) หรือคายความร้อน (exothermic) ทีมเลยวิจัยไดโนเสาร์ที่อาศัยอยู่ในละติจูดสูง เช่น รัฐอัลเบอร์ตาในแคนาดา โดยใช้ฟอสซิลไดโนเสาร์ 3 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปตามเส้นทางวิวัฒนาการจากสัตว์เลื้อยคลานไปถึงนก ซึ่งพบว่าอุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 35-40 องศาเซลเซียส แต่ข้อมูลนี้ไม่ได้ให้คำตอบว่าไดโนเสาร์ดูดความร้อนหรือสร้างความร้อนในร่างกายตัวเอง หรือได้รับความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์และสิ่งแวดล้อม
ทีมเผยว่า จากการกำหนดอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมในอัลเบอร์ตายุคที่มีไดโนเสาร์และวิเคราะห์พันธะทางเคมีในหมู่ไอโซโทปกับเปลือกหอยมอลลัสค์ (mollusk shells) ที่พบข้างซากไดโนเสาร์หอยเป็นสัตว์เลือดเย็นจึงสะท้อนบรรยากาศช่วงเวลานั้น อุณหภูมิหอยวัดได้ 26 องศาเซลเซียส ชี้ให้เห็นว่าไดโนเสาร์ที่อาศัยในอัลเบอร์ตาเป็นแบบดูดความร้อน (endothermic) ไม่เช่นนั้นจะไม่อาจรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ที่ 35-40 องศาเซลเซียสได้.
...