นายโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าด้านนโยบายต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป (อียู) เผยเมื่อ 12 ก.พ.ว่า ทางอียูจะหั่นผลประโยชน์ทางการค้าบางส่วนภายใต้ข้อตกลง “ทุกอย่างยกเว้นอาวุธยุทโธปกรณ์” (อีบีเอ) ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือส่งเสริมการค้าให้กับบางประเทศที่มีฐานะยากจนที่สุดในโลก กับกัมพูชา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 20% หรือมูลค่าการส่งออกของกัมพูชามายังอียูปีละ 1,000 ล้านยูโร เพราะกัมพูชายังมีสถิติของการลิดรอนสิทธิมนุษยชน การกัดกร่อนประชาธิปไตย และไม่ให้มีการโต้เถียงอย่างเสรี
ขณะที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่า จะไม่ยอมก้มหัวให้กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของอียู แม้การเคลื่อนไหวของอียูครั้งนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอกัมพูชาที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีการจ้างงานกว่า 700,000 คน และกัมพูชาถือเป็นผู้ป้อนตลาดสิ่งทอกับเสื้อผ้ารายใหญ่อันดับ 6 ของอียู คิดเป็นมูลค่าเมื่อปี 2561 กว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปเตรียมอนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีและการลงทุนในเวียดนาม โดยเตรียมยกเลิกการเก็บภาษีเกือบทั้งหมด ภายในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้า.