สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีนกำลังสร้างความหวั่นวิตกให้แก่ชาวจีนและนานาประเทศ หลังจากเริ่มระบาดเมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยจนถึงค่ำวันที่ 24 ม.ค.63 ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย และมีผู้ติดเชื้อกว่า 830 คน

- จีนเร่งสร้างรพ.ใหม่ ขนาด1,000 เตียงที่อู่ฮั่น
สถานีโทรทัศน์ CGTN ในจีน รายงานและเผยแพร่คลิปผ่านทางทวิตเตอร์ รัฐบาลจีนระดมสรรพกำลังทุกด้าน เร่งสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 1,000 เตียงแบบหามรุ่งหามค่ำ บนพื้นที่ขนาด 25,000 ตารางเมตร ในเมืองอู่ฮั่น โดยเริ่มก่อสร้างทันทีเมื่อคืนวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา และประกาศจะต้องสร้างโรงพยาบาลให้แล้วเสร็จพร้อมใช้งานรักษาพยาบาลผู้ป่วยในวันที่ 3 ก.พ. ที่จะถึงนี้ พร้อมกันนั้น ยังตั้งชื่อโรงพยาบาลแล้วว่า ‘HuashenShan’ (หั่วเสินซาน)
ขณะที่สื่อต่างชาติรายงาน ผู้คนในเมืองต่างไของมณฑลหูเป่ย ต่างพากันไปโรงพยาบาลจนแน่นขนัด เพื่อต้องรับการตรวจวินิจฉัยด้วยความหวั่นวิตก
...

- ยังไม่รู้สายพันธุ์แน่ชัด ผลวิจัยเบื้องต้นติดต่อสู่คนผ่านทางงู
รอยเตอร์แจ้งว่าผลวิจัยเบื้องต้นในการสืบหาไวรัสโคโรน่า ยังไม่ทราบสายพันธ์แน่ชัด ขณะที่บ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสนี้ติดต่อมาสู่มนุษย์ผ่านทางงู ทว่า ที่ปรึกษาทางการแพทย์ของรัฐบาลจีน ระบุว่า ตัว Badger ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์เพียงพอน และ หนู มีความเป็นไปได้ที่อาจเป็นต้นเหตุการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่มาสู่คน ขณะที่คาดว่า สถานที่ที่เป็นต้นตอการระบาดคือตลาดอาหารทะเล ซึ่งมีการขายสัตว์ป่าอย่างผิดกฏหมายแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ CGTN ยังเผยแพร่ภาพไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่เป็นครั้งแรกแล้ว

- จีนปิดเมืองเพิ่มเป็นอย่างน้อย 14 เมืองแล้ว
เดลี่เมล รายงานว่า ทางการจีนได้สั่งระงับการบริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และปิดถนนสายหลัก ในเมืองต่างๆเพื่อพยายามสกัดกั้นการระบาดติดต่อของเชื้อไวรัส เพิ่มเป็นอย่างน้อย 14 เมือง ซึ่งมีประชากรรวมกันราว 40 ล้านคนแล้ว หลังจากได้ประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ยเป็นเมืองแรก เนื่องจากเป็นเมืองศูนย์กลางการแพร่ระบาด พร้อมกับสั่งระงับเที่ยวบินขาออกจากเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่ 23 ม.ค.

- สั่งปิดพระราชวังต้องห้าม -กำแพงเมืองจีน-เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์
นอกจากนั้น ทางการจีนยังยกระดับมาตราการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับไวรัสโคโรน่า ที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลัน หรือซาร์ส ด้วยการสั่งปิดพระราชวังต้องห้าม ซึ่งเป็นมรดกโลก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงปักกิ่ง ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 ม.ค. 63
นอกจากนั้น ทางการยังได้สั่งปิดกำแพงเมืองจีนบางส่วน และสั่งปิดสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ในนครเซี่ยงไฮ้แล้ว ขณะที่สนามกีฬาแห่งชาติในกรุงปักกิ่ง ‘ปักกิ่ง เนชั่นแนล สเตเดียม’ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Bird’s Nest ก็ถูกสั่งปิดแล้วเช่นกัน
...

- ทีมนักวิจัยต่างชาติชี้-4ก.พ. ติดเชื้อจริงกว่า2.5 แสน ไทยเสี่ยงสุด
เดลี่เมล เผยว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ ในอังกฤษ มหาวิทยาลัยฟลอริดาในสหรัฐฯ และมหาวิทยากลาสโกว์ ในสกอตแลนด์ ได้คาดประมาณว่า มีเพียง 5 % ของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าทั้งหมดที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเท่านั้น
นายแพทย์ โจนาธาน รีด นักวิจัยด้าน biostatistics หรือชีวสถิติ ที่มหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ ได้เขียนรายงานร่วมกับทีมนักวิจัยว่า ‘ถ้าไม่มีการเปลี่ยนการควบคุมหรือการระบาดของเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้น พวกเราคาดว่าจะมีการระบาดในเมืองอื่นๆของจีนเพิ่มขึ้น และจะมีการติดเชื้อไปยังนานาประเทศเพิ่มขึ้น’
พร้อมกันนั้น ยังชี้ว่า ‘ ในช่วงเวลา 14 วัน (จนถึง 4 ก.พ.2020 ) โมเดลของเราได้คาดการณ์จำนวนประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในเมืองอู่ฮั่นจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 250,000 คน (หรือในช่วง 164,602-351,396 คน)
...

นอกจากนั้นทีมนักวิจัยด้านชีวสถิติทีมนี้ยังคาดการณ์ว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะแพร่ระบาดไปยังเมืองอื่นๆของจีน ได้แก่ เมืองเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว ฉงชิ่ง และเฉิงตู ขณะเดียวกันประเทศ หรือเขตปกครองพิเศษที่มีความเสี่ยงที่สุดในการระบาดของไวรัสโคโรน่า จากการเดินทางของผู้คนที่ติดเชื้อโดยเครื่องบิน ได้แก่ ประเทศไทย ,ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง และเกาหลีใต้.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง