อังกฤษส่ง 2 เรือรบปรับเปลี่ยนภารกิจ มาที่อ่าวเปอร์เซีย คอยอารักขาคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันอังกฤษ ขณะที่อิหร่านชักธงแดงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมทำสงคราม หลังนายพลคาเซม โซไลมานี่ ถูกปลิดชีพ
เมื่อ 6 ม.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศ รวมทั้งเว็บไซต์ เดลี่เมล และเดอะ การ์เดียน รายงาน กองทัพเรืออังกฤษ ส่งเรือรบราชนาวี 2 ลำ HMS Montrose (มอนโทรส) และHMS Defender (ดีเฟนเดอร์) พร้อมอาวุธหนักเต็มพิกัด สับเปลี่ยนภารกิจ มุ่งหน้าไปปฏิบัติการคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันติดธงอังกฤษบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างอ่าวโอมานกับอ่าวเปอร์เซีย ในภูมิภาคตะวันออกกลาง หวั่นอิหร่านล้างแค้นสหรัฐฯ และชาติตะวันตก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สั่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ส่งโดรนพิฆาตเด็ดชีพนายพลคาเซม โซไลมานี่ ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน จนยิ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน ทวีความตึงเครียดจนหวั่นอาจเกิดสงคราม
...
นอกจากนั้น กองทัพอังกฤษยังได้ส่งทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ SAS ประมาณ 50 นาย และมีคำสั่งให้ทหารกว่า 400 นายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ปรับเปลี่ยนภารกิจจากฝึกสอนทางทหารในพื้นที่ มาเป็นการอารักขาคุ้มครองนักการทูตอังกฤษและทรัพย์สินของอังกฤษในตะวันออกกลาง ด้วยความหวั่นเกรงว่าอิหร่านและสหรัฐฯอาจก่อสงครามกันอย่างปัจจุบันทันด่วน
เดลี่เมลยังเผยว่า อังกฤษมีเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธโทมาฮอว์ก ประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตลอดเวลาอยู่แล้ว 1 ลำ และเรือดำน้ำลำนี้อยู่ในจุดที่พร้อมโจมตีได้ตลอดเวลา ถ้าสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ตึงเครียดนั้น ได้ทวีขึ้นจนเกิดสงคราม
ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์อิหร่านได้มีการถ่ายทอดภาพเหตุการณ์อิหร่านเชิญธงแดง ขึ้นสู่ยอดเสาที่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ในเมืองกอม ขณะมีพิธีรำลึกไว้อาลัยแด่นายพลโซไลมานี่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่อิหร่านชักธงแดงสีเลือดขึ้นสู่ยอดเสาที่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสัญลักษณ์ของการประกาศพร้อมทำสงครามกับชาติข้าศึกศัตรู หลังจากได้ประกาศจะขอล้างแค้นให้กับนายพลโซไลมานี่ ที่ถูกประธานาธิบดีทรัมป์สั่งปลิดชีพสะท้านโลก
ข่าวเกี่ยวข้อง