ซาอุฯโชว์หลักฐาน ซากโดรน ขีปนาวุธนำวิถีโจมตีโรงกลั่น ซัดอิหร่านตัวการ

กองทัพซาอุฯ โชว์หลักฐาน ซากโดรน ขีปนาวุธนำวิถีถูกยิงมาโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง หวังพิสูจน์ให้โลกเห็น อิหร่านตัวการถล่ม ขณะที่อิหร่านยืนกรานปฏิเสธ ขู่ตอบโต้ทันทีหากโดนโจมตี

เมื่อ 19 ก.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศ และ บีบีซี รายงานกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย นำเศษซากชิ้นส่วนอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และขีปนาวุธนำวิถีที่ถูกใช้โจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทซาอุดี อารัมโก เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ย. มาแสดงต่อสายตาสื่อมวลชนจากทั่วโลก เมื่อ 19 ก.ย. พร้อมระบุว่า เศษซากชิ้นส่วนโดรนและขีปนาวุธเหล่านี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย หลังจากก่อนหน้านี้ กลุ่มกบฏฮูธิในเยเมนได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย

เจ้าหน้าที่กองทัพ และกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า มีโดรน 18 ลำ และขีปนาวุธนำวิถีนับ 7 ลูก ถูกยิงมาจากทิศทางที่ไม่ใช่มาจากประเทศเยเมน เพื่อโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งในเมืองอับเคกและคูราอิส โดยเศษซากชิ้นส่วนของโดรนและขีปนาวุธเหล่านี้ตกกระจัดกระจายเกลื่อนบริเวณโรงกลั่นน้ำมันทั้งสองแห่ง จากนั้น เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียได้เก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนและนำมาแสดงให้สื่อมวลชนจากทั่วโลกประจักษ์ด้วยตาระหว่างการแถลงข่าว

พ.ท.เตอร์กี-อัล-มัลกี โฆษกกองทัพซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่าเศษซากชิ้นส่วนโดรนและขีปนาวุธเหล่านี้ถูกยิงมาจากทิศทางของประเทศอิหร่าน ไม่ใช่เยเมน เพราะถูกยิงมาจากทางทิศเหนือและได้รับการสนับสนุนอย่างไม่มีข้อกังขาโดยอิหร่าน ซึ่งโดรน Delta Wing (เดลต้า วิง) และขีปนาวุธนำวิถีถูกใช้ในการโจมตีครั้งนี้ โดยขีปนาวุธบินไกลเป็นระยะทาง 435 ไมล์ ซึ่งนั่นหมายถึง ไม่ได้ถูกยิงมาจากเยเมน อีกทั้งคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดยังแสดงให้เห็นว่า มีโดรนลำหนึ่งบินมาจากทางทิศเหนือ

อย่างไรก็ตาม ด้านรัฐบาลอิหร่านได้ปฏิเสธมาตลอดว่าอิหร่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันทั้งสองแห่งของซาอุดีอาระเบีย โดยทางการอิหร่านได้ส่งหนังสือถึงสหรัฐฯ ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ว่า การเคลื่อนไหวใดๆ ของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่าน จะถูกตอบโต้อย่างทันที หลังจากก่อนหน้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เตือนว่ากองทัพสหรัฐฯ พร้อมโจมตีหากมีหลักฐานยืนยันอิหร่านเกี่ยวข้องกับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันป้อนตลาดโลก

ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯซึ่งเดินทางมายังซาอุดีอาระเบียเมื่อวันพุธที่ 18ก.ย. เพื่อหารือกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ถึงสถานการณ์ตึงเครียดครั้งนี้ ยืนยันข้อกล่าวหา อิหร่านอยู่เบื้องหลังโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งถือเป็น ‘การกระทำของสงคราม’

ข่าวเกี่ยวข้อง

ทรัมป์ขู่พร้อมยิง จนท.สหรัฐฯ ซัดอิหร่านยิงมิสไซล์ถล่มโรงกลั่นซาอุฯ

รู้จัก ซาอุดี อารัมโก ‘เพชรประดับยอดมงกุฎ’ ธุรกิจน้ำมันซาอุฯเจอโดรนถล่ม