ไมค์ ปอมเปโอ จวกอิหร่าน โจมตีโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดของโลกในซาอุฯ

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ตำหนิ อิหร่านโจมตีโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกของบริษัทอารัมโก ในซาอุฯ ชี้ไม่มีหลักฐานโดรนบินมาจากเยเมน ตามที่กบฏฮูธิอ้าง ส่งโดรนนับ 10 ลำ ถล่มโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งในซาอุฯ

เมื่อ 15 ก.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศและบีบีซี เกาะติดสถานการณ์ระทึก โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทพลังงานทางการซาอุดีอาระเบีย Aramco (อารัมโก) หนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก ในซาอุดีอาระเบีย โดนโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับ(โดรน)หลายลำ จนเกิดไฟไหม้ลุกโชน ควันดำทะมึนน่ากลัว ได้รับความเสียหาย ก่อนต่อมา กบฏฮูธิในเยเมนได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบส่งโดรน 10 ลำ ถล่มโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น

ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาตำหนิรัฐบาลอิหร่าน โดยระบุว่า ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ว่าโดรนเหล่านี้บินมาจากเยเมน และการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

‘รัฐบาลเตหะรานอยู่เบื้องหลังการโจมตีในซาอุดีอาระเบียมาแล้วเกือบ 100 ครั้ง ขณะที่ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี และนายโมฮัมหมัด จาวัด ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน แสร้งทำเป็นพยายามใช้วิถีทางการทูต และท่ามกลางการเรียกร้องให้สถานการณ์รุนแรงลดลง ตอนนี้อิหร่านเริ่มการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่มีหลักฐานว่าโดรนเหล่านี้บินมาจากเยเมน’ ไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ เมื่อ 15 ก.ย.62

นายปอมเปโอ ยังระบุด้วยว่า เราขอเรียกร้องให้นานาประเทศทั้งมวล ประณามอิหร่านอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะในการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ขณะเดียวกันรัฐบาลสหรัฐฯได้ทำงานกับชาติพันธมิตรเพื่อสร้างความมั่นใจว่าตลาดพลังงานยังคงมีน้ำมันและก๊าซเพียงพอ

ก่อนหน้านี้ เจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบียได้กล่าวถึงเหตุโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ของบริษัทอารัมโก ที่เมืองอับเคก และคูราอิส ทางภาคตะวันออกของซาอุดีอาระเบียโดนโจมตีว่าทำให้ต้องลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลง จากปกติผลิตน้ำมันดิบได้วันละ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นปริมาณการผลิตครึ่งหนึ่งของการผลิตน้ำมันดิบในซาอุดีอาระเบียเลยทีเดียว

ข่าวเกี่ยวข้อง

ฝูงโดรนถล่มโรงกลั่นยักษ์ซาอุดีอาระเบีย