สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนเดือดหนัก ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพิ่มอีก 5% เป็น 30% เริ่ม 1 ตุลาคมนี้ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทอเมริกันย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ส่งผลตลาดเงินโลกป่วนทันที

เมื่อ 24 ส.ค.62 สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซี รายงาน ชาวโลกหวั่นเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย สหรัฐฯ-จีนยังคงทำสงครามการค้ากันอย่างดุเดือด ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.62 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 5% ซึ่งจะทำให้สินค้าจากจีน รวมมูลค่าราว 550,000 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 16.7 ล้านล้านบาท) ที่ถูกส่งมายังสหรัฐฯจะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 30% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป นอกจากนั้น ทรัมป์ยังมีแผนจะข้ึนภาษีสินค้าอื่นๆ จากจีน รวมมูลค่า 3 แสนดอลลาร์ จาก 10% เป็น 15%อีกด้วย

ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากรัฐบาลจีนได้ประกาศตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯครั้งใหม่อีก 5-10% ของสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ กว่า 5,000 รายการ มูลค่าราว 75,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าทางการเกษตร เครื่องบินและน้ำมันดิบ รวมทั้งจะเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯ 25% หลังจากที่เคยระงับไป

...

ประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกการกระทำดังกล่าวของจีนว่า มีมูลเหตุจูงใจมาจากการเมือง และกล่าวหาจีนเอาเปรียบสหรัฐฯ นอกจากนั้นประธานาธิบดีทรัมป์ยังเรียกร้องให้บริษัทสัญชาติอเมริกันย้ายฐานการผลิตออกมาจากจีนด้วย

‘น่าเศร้า ที่รัฐบาลสหรัฐฯที่ผ่านๆ มาปล่อยให้จีนมาไกลมาจนถึงขณะนี้ในการค้าขายอย่างยุติธรรมและสมดุล กับสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นภาระใหญ่หลวงของชาวอเมริกันที่เสียภาษี’ ทรัมป์ ทวีตข้อความตำหนิจีน และรัฐบาลสหรัฐที่ผ่านมาพร้อมระบุว่า ในฐานะประธานาธิบดี ตนไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป

บีบีซี รายงานด้วยว่า การพัฒนาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯล่าสุด ได้ส่งผลให้ตลาดการเงินโลกระส่ำระสาย ทันที ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ดิ่งลงไปกว่า 620 จุด หรือ 2.4% เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. และดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ในลอนดอนร่วงติดลบเช่นกัน

อ่านข่าว