ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แถลงต่อประชาชนทั้งประเทศ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.00 น. คืนวันเดียวกันตามเวลาไทย หลังเกิดเหตุมือปืนกราดยิง 2 จุดซ้อนในรัฐเท็กซัสและรัฐโอไฮโอห่างกันเพียง 13 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตรวม 29 ศพ บาดเจ็บกว่า 50 คน
หลังเกิดเหตุ ทรัมป์แถลงว่า “ความเกลียดชังไม่มีที่ยืนในสหรัฐฯ” ต้องทำอะไรมากกว่านี้เพื่อหยุดยั้งการสังหารหมู่ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายต่อหลายปี เขายังโยงเหตุโจมตี 2 ครั้งนี้ว่าเกิดจากปัญหาเจ็บป่วยทางจิต ชี้ว่ามือปืนทั้ง 2 คนป่วยทางจิตรุนแรง แม้เจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่ชี้ว่ามือปืนเป็นผู้เจ็บป่วยทางจิตหรือไม่
ทั้งนี้ นายแพทริค ครูเซียส ชายผิวขาววัย 21 ปี ชาวเมืองอัลเลน ใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมกราดยิงผู้คนในร้าน “วอลมาร์ท” เมืองเอล ปาโซ รัฐเท็กซัส เมื่อบ่ายวันที่ 3 ส.ค. มีผู้เสียชีวิต 20 คน บาดเจ็บ 26 คน ก่อนมือปืนยอมมอบตัวกับตำรวจโดยไม่มีการยิงปะทะกัน นับเป็นเหตุกราดยิงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากอันดับ 8 ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ โดยผู้เสียชีวิตมีชาวเม็กซิกัน 7 คน และมีสตรีวัย 42 ปีคนหนึ่งที่ใช้ร่างปกป้องลูกชายวัย 2 เดือนด้วย
ก่อนก่อเหตุ 20 นาที เชื่อว่าครูเซียสโพสต์แถลงการณ์ 4 หน้าลงกระดานข่าวออนไลน์ “8chan” ของกลุ่มผิวขาวขวาสุดโต่ง ระบุว่าการโจมตีเป็นการตอบโต้ที่พวกละตินอเมริกา (ฮิสแปนิก) บุกรุกรัฐเท็กซัส เขายังแสดงความสนับสนุนมือปืนที่สังหารหมู่ 51 ศพในเมืองไครสต์เชิร์ชในนิวซีแลนด์เมื่อเดือน มี.ค.ด้วย ทั้งนี้ เมืองเอล ปาโซ มีประชากรราว 680,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวฮิสแปนิก
จากนั้นราว 13 ชม. นายคอนเนอร์ เบตส์ ชายผิวขาววัย 24 ปี ก็ใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมขนาด 223 มม. ที่มีแมกกาซีนบรรจุกระสุนถึง 100 นัด กราดยิงที่ไนท์คลับ “เนด เพพเพอร์ส” เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บาดเจ็บ 27 คน โดยมือปืนถูกตำรวจยิงตายคาที่ในไม่กี่วินาที ผู้เสียชีวิตรวมทั้งเมแกน เบตส์ วัย 22 ปี น้องสาวของมือปืนซึ่งนั่งรถไปกับพี่ชายและแฟนหนุ่ม ในผู้เสียชีวิตมีคนผิวดำถึง 6 คน แต่ตำรวจยังไม่ระบุแรงจูงใจของคนร้าย
...
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯชี้ว่า การสังหารหมู่ 2 ครั้งนี้เป็นฝีมือ “ผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ” ขณะที่มีกระแสเรียกร้องให้ปฏิรูปกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอีกครั้ง ส่วนเหล่าแกนนำพรรคเดโมแครตกล่าวหาว่าทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เพราะเขามักพูดต่อต้านผู้อพยพและต่อต้านการควบคุมอาวุธปืน.