ใครได้ใครเสีย...

ไม่ว่าจะมองด้วยมุมคิดที่แตกต่างกันหรือตรงกัน แต่การประชุมจี 20 ที่โอซากา ญี่ปุ่น ซึ่งผ่านไปแล้วผลออกมาอีกมุมหนึ่ง

แต่ก็คงเป็นเพียง “มุมดี” เพียงแต่ว่าจะยืดยาวแค่ไหน เพราะคงไม่ใช่ข้อตกลงถาวรน่าจะเพียงชั่วคราวเพื่อรอเวลาที่ต้องว่ากันใหม่

“โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯเจรจากับ “สี จิ้นผิง” ผู้นำจีนเป็นไฮไลต์สำคัญที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ

ประเด็นก็คือ “สงครามการค้า” ทั้ง 2 ประเทศจะไปทางไหน

ผิดคาดครับ...เพราะ “ทรัมป์” ยุติการขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าจีนที่เคยขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ให้เป็นไปอย่างนั้น

นั่นเท่ากับว่าเป็นการผ่อนปรนทำให้สถานการณ์คลี่คลายไประดับหนึ่ง

อีกทั้งก็ยอมอนุญาตให้ “หัวเว่ย” ยักษ์ใหญ่มือถือของจีนสามารถที่จะซื้ออะไหล่ต่างๆจากสหรัฐฯได้

เป็น 2 เปลาะสำคัญ ซึ่งเป็นท่าทีใหม่ของสหรัฐฯ

แม้ยังไม่ชัดเจนว่าสหรัฐฯจะมีห้วงเวลานานเท่าใด หรืออีกเพียงไม่กี่วันจะหันกลับมาประกาศใช้ใหม่คงคาดเดาไม่ได้

ที่สำคัญก็คือทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่ตึงเครียดอย่างที่ผ่านมา

เรื่องนี้คงต้องวิเคราะห์กันว่าทำไมสหรัฐฯจึงปรับท่าทีกันใหม่เป็นการชั่วคราว แต่ถึงที่สุดต้องบอกว่า “มีแต่ได้กับได้”

หรือจะบอกว่าเป็น “ชัยชนะ” ในเกมนี้ก็ว่าได้

อย่างน้อยก็ชนะใจนานาชาติที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการของ “ทรัมป์” เพราะต่างก็ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจอย่างหนัก ไปทั้งโลก เมื่อคลี่คลายได้อย่างนี้ก็พอเข้าใจกันได้

อีกด้านหนึ่งการยุติการขึ้นภาษี เพื่อบีบคั้นจีนนั้นต้องยอมรับว่าสหรัฐฯได้เปรียบไปกว่าครึ่งแล้ว คือก้าวข้ามไปไกลแล้ว

...

หากไม่ดำเนินการต่อไปก็คือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

ที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ เมื่อมาตรการที่ “ทรัมป์” ดำเนินการไปนั้นย่อมส่งผลกระทบไปทั่วโลก แม้กระทั่งภาคธุรกิจเอกชนของสหรัฐฯเองด้วย

เห็นได้จากมีความเคลื่อนไหวในสหรัฐฯ ที่เข้าชื่อให้ผู้นำประเทศยุติมาตรการดังกล่าว เพราะไม่ได้ผลดีแต่อย่างใด

นอกจากมีรายได้เพิ่มขึ้นก็จริงแต่ยังมีผลกระทบอย่างอื่นด้วย

อีกประเด็นที่จะเป็นผลโดยตรงต่อความเป็นผู้นำของ “ทรัมป์” เนื่องจากจะต้องเตรียมการเลือกตั้งประธานาธิบดีวาระที่ 2 ในอีกไม่นานนี้

การเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าหนักไม่น้อย เพราะจะต้องเจอคู่แข่งที่ไม่ธรรมดาแน่ เพราะนอกจากพรรคคู่แข่งแล้ว

กระแสความไม่พอใจจากชาวสหรัฐฯเอง ก็อย่างที่เห็นกันอยู่คือมีความเคลื่อนไหวต่อต้านมาตลอด

แม้ระยะหลังสถานการณ์จะดีขึ้นมากก็ตาม

การแสดงบทบาทความเป็น “ผู้นำโลก” ของ “ทรัมป์” ด้วยการแสดงให้ปรากฏมาเป็นระยะๆน่าจะทำให้การยอมรับสูงขึ้น

ประชุมจี 20 ครั้งนี้เลยกลายเป็นว่า “ทรัมป์” โชว์ฟอร์มความเป็นผู้นำเหนือกว่าชาติอื่นๆ เพราะประเด็น “สงครามการค้า” ถือเป็นรูปธรรมมากที่สุด

คือขอเป็น “พระเอก” ชั่วคราว แต่ก็พร้อมจะเป็น “ผู้ร้าย” เมื่อใดก็ได้.

“สายล่อฟ้า”