ห่างจากกรุงปักกิ่ง 130 กิโลเมตรคือเทียนจิน เมืองท่าทางทะเลที่สำคัญบนฝั่งแม่น้ำไห่ ที่เชื่อมกับแม่น้ำฉางเจียงโดยคลองต้ายุ่นเหอและบนฝั่งอ่าวโป๋ไห่

เทียนจินเป็นข่าวดังในสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2562 ที่เมืองนี้มีการพิจารณาคดีนายเมิ่ง หงเว่ย อดีตประธานองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่เราเรียกกันอย่างสั้นว่า ตำรวจสากล หรืออินเตอร์โปล ความสนใจในคดีนี้ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศจีนครับ แต่ความสนใจมาจากทั้งโลก เพราะอินเตอร์โปลเป็นหน่วยงานระดับโลกเก่าแก่มีขอบเขตอำนาจทั่วสากลโลก ทำหน้าที่ประสานงานเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และป้องกันการก่อการร้าย ขัดขวางและปราบปรามองค์กรอาชญากรรม การลักลอบผลิตและค้ายาเสพติด การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ การฟอกเงิน การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก อาชญากรรมทางการเงิน และการทุจริต

โลกของเราใบนี้มีสมาชิกสหประชาชาติ 194 ประเทศ สมาชิกของอินเตอร์โปลก็มี 194 ประเทศเช่นกัน ทุกประเทศมีผู้แทนเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ ส่วนคณะกรรมการบริหารที่เรียกว่า Executive Committee มีสมาชิก 13 คนที่ได้รับการเลือกตั้งจากสมัชชาใหญ่ มีประธาน 1 คน รองประธาน 3 คน และสมาชิกอีก 9 คนที่เหลือเป็นตัวแทนที่ครอบคลุม 4 ภูมิภาคของโลก

นายเมิ่งคือประธานคณะกรรมการบริหาร จึงเป็นบุคคลในตำแหน่งสูงสุด เป็นเบอร์ 1 ขององค์กรที่วันดีคืนดีก็หายตัวไป ภายหลัง มีการเปิดเผยว่าโดนจับในประเทศตัวเอง ข่าวนายเมิ่งโดนจับสร้างความตระหนกตกใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย

พฤหัสบดี 20 มิถุนายน 2562 ณ ศาลประชาชนชั้นกลางหมายเลข 1 แห่งเทศบาลนครเทียนจิน มีการเปิดการไต่สวนนัดแรก จำเลยคือ นายเมิ่ง หงเว่ย ที่นอกจากเป็นประธานอินเตอร์โปลแล้ว แกยังเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์จีนและมีตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย

...

โจทก์คืออัยการผู้ระบุพฤติการณ์ของจำเลยตั้งแต่ พ.ศ.2548 จนถึง พ.ศ.2561 ว่าจำเลยรับสินบนรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14.5 ล้านหยวน เป็นเงินไทยก็ 65.18 ล้านบาท การไต่สวนนัดแรกเมื่อวันพฤหัสบดี จำเลยรับสารภาพว่ารับสินบนจริง ขณะนี้ประชาชนและสื่อมวลชนรอวันประกาศการลงโทษนายเมิ่งซึ่งคาดกันว่าน่าจะเป็นโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

นายเมิ่งแต่งงานกับนางเกรซมีบุตร 2 คน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 บุตรและภรรยาของนายเมิ่งได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากรัฐบาลของสาธารณรัฐฝรั่งเศส

งานนี้มีคนวิเคราะห์กันไปต่างๆนานาครับ ว่านี่เป็นการกำจัดฝ่ายตรงข้ามกับอำนาจปัจจุบัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเมิ่งเคยเป็นคนสนิทของฝ่ายตรงข้ามอำนาจ

ข้าราชการชั้นสูงของจีนในปัจจุบันระวังตัวกันแจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันในเมืองจีนหรือการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ ทุกคนหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย ใครก็ตามที่โดนประชาชนใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพแล้วกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียต่างๆไม่รอดสักราย รัฐบาลของนายสี จิ้นผิงรักษาภาพลักษณ์ด้านความสุจริตเป็นอย่างมาก

ร้านอาหารภัตตาคารดังที่เคยเป็นสถานที่จัดเลี้ยงของบรรดาข้าราชการทุกระดับ วันนี้ไม่มีข้าราชการมาใช้บริการอย่างคึกคักเหมือนสมัยก่อน การประชุมพูดคุยก็จะทำกันในสำนักงานอย่างประหยัด นายสี จิ้นผิง และนางเผิงลี่หยวน ภริยาเป็นต้นแบบของความเรียบง่าย เราจะไม่เคยได้ยินข่าวสังคมซุบซิบที่เผยแพร่ออกมาสู่สังคมออนไลน์ในแง่ของความหรูหราฟุ่มเฟือยจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและภริยาแม้แต่ครั้งเดียว

บิดาของสี จิ้นผิงคือท่านสีจ้งซวินเคยถูกโจมตีและถูกกลุ่มเรดการ์ดที่ซีอานจับไปส่านซี และยังถูกนำตัวไปประจานตามท้องถนนในเมืองต่างๆทั้งที่ซีอาน เหยียนเหลียง ฟู่ผิง ฯลฯ หลังจากนั้นมา พ่อลูกตระกูลสีก็ระมัดระวังตัว

ตอนที่บิดาโดนโจมตี นายสี จิ้นผิงมีอายุแค่ 14 ปี ก็ถูกโจมตีและถูกกลั่นแกล้งทรมานอย่างโหดร้ายตามไปด้วย ประสบการณ์ต่างๆ อย่างนี้ทำให้สี จิ้นผิงระมัดระวังตัว และครองตัวมาจนเป็นเบอร์ 1 ของประเทศที่ปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com