...ปัญหาสาวๆจากกัมพูชาถูกลักลอบพาเดินทางไปจีนด้วยจุดประสงค์ต่างๆนานา รวมถึงทำงานและแต่งงานกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลกัมพูชาพยายามสกัดหยุดยั้งขบวนการนี้ แต่ก็ไม่สำเร็จเด็ดขาดสักที

หลายปีที่ผ่านมา เด็กสาวจากกัมพูชา โดยเฉพาะตามชนบทห่างไกล ถูกลักลอบนำส่งไปจีนแล้วมากมาย ข้อมูลรัฐบาลกัมพูชาระบุเฉพาะช่วงปี 2559 สาวๆกัมพูชาถูกลักลอบนำเข้าจีนมากเกือบ 7,000 คน แต่ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการมากกว่านั้น ศูนย์กลางการลักลอบนำส่งสาวกัมพูชาไปจีนอยู่ในจังหวัดกัมปงจาม ทางภาคกลาง

นายตำรวจกัมพูชาที่ทำงานปราบปรามกระบวนการค้ามนุษย์บอกเล่าว่า สาวๆกัมพูชาเหล่านั้นหลังถูกพาเข้าจีน บ้างจะถูกบังคับแต่งงาน บ้างถูกบังคับทำงานหนัก หลายรายถูกล่วงละเมิดและจำต้องทนรับสภาพความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะต้อง “แลกรายได้” จุนเจือครอบครัวในประเทศบ้านเกิด

สาวๆหลายรายเมื่อตกอยู่ในสภาพถูกบีบคั้นทนทุกข์ทรมานไม่ไหวก็พยายามติดต่อครอบครัวญาติพี่น้องในกัมพูชาให้ทางการประสานขอความช่วยเหลือนำพากลับประเทศบ้านเกิด

แต่พอได้รับช่วยเหลือกลับถึงมาตุภูมิ สาวๆเหล่านั้นกลับไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่สอบสวนดำเนินคดีแก่ผู้เกี่ยวข้องขบวนการค้ามนุษย์ เพราะเกรงหากถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนอย่างละเอียด อาจทำให้ “คนใกล้ชิด” ต้องตกเป็น “ผู้ต้องหา” ร่วมขบวนการค้ามนุษย์ลูกหลานตัวเอง

ตัวอย่างการดำเนินคดีบุคคลเกี่ยวข้อง “ค้ามนุษย์” เฉพาะในพื้นที่จังหวัดกัมปงจามช่วงปีที่แล้วแค่ 4 คดี แถมลดลงจากช่วงปี 2558 มีจำนวน 20 คดี ทั้งๆที่สถานการณ์ไม่ได้ลดลง

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากผลพวงนโยบาย “ลูกคนเดียว” ที่รัฐบาลจีนบังคับใช้คุมจำนวนประชากรเมื่อช่วงปี 2521-2523 ก่อให้เกิดความ “ไม่สมดุล” ของประชากรชายหญิงในประเทศอย่างรุนแรง เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ต้องการ “ลูกชาย” มากกว่า “ลูกสาว” จึงทำให้ “มรดกบาป” เด็กผู้ชายมีมากกว่าเด็กผู้หญิงตกทอดถึง ปัจจุบันตัวเลขผู้ชายชาวจีนอยู่ในวัยแต่งงานมากถึงกว่า 40 ล้านคน แต่ยากหาสตรีชาวจีนแต่งงานสร้างครอบครัวด้วย

...

ปัญหาจึงถูกแก้ด้วยการเสาะแสวงหา “สาวๆต่างชาติ” นำเข้ามาแต่งงาน โดยเฉพาะสาวๆแถบบ้านใกล้เรือนเคียงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม สปป.ลาว และไทย

เรื่องราวการลักลอบค้ามนุษย์ในภูมิภาคนี้ จึงวนเวียนไม่รู้จบ...


อานุภาพ เงินกระแชง