จากรายงานดัชนีแรงงานทาสทั่วโลก ประจำปี 2561 เผยแพร่โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชน กองทุนวอล์กฟรี พบว่า เมื่อปี 2559 มีประชากรทั่วโลก 40.3 ล้านคนที่ตกเป็นทาสแรงงานยุคใหม่ โดยสัดส่วนที่สูงสุดอยู่ในเกาหลีเหนือ หลังพบว่า 1 ใน 10 คนตกอยู่ในสภาพดังกล่าว ซึ่ง น.ส.ยอน-มี ปาร์ก ชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีจากวงจรการค้ามนุษย์แล้วถูกบังคับให้แต่งงานในจีน กล่าวในงานที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) นครนิวยอร์ก ในสหรัฐฯ ขณะกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในนครนิวยอร์ก ยืนยันดัชนีดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ 300,000 คนในจีน และ 90% เป็นพวกที่ถูกลอบค้ามนุษย์ ซึ่งถูกซื้อจากชายจีนในราคาไม่กี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน อินเดียยังเป็นประเทศที่มีจำนวนแรงงานทาสมากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลข 8 ล้านคน จากจำนวนประชากร 1,300 ล้านคน ตามด้วยจีน ปากีสถาน เกาหลีเหนือ และไนจีเรีย ซึ่งรวมกันแล้วเท่ากับร้อยละ 60 ของแรงงานทาสทั่วโลก นอกจากนี้ เกาหลีเหนือ เอริเทรีย และบุรุนดี ยังเป็นประเทศที่มีรัฐบาลสนับสนุนให้เกิดแรงงานทาส โดยบังคับให้ประชาชนทำงานเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เช่นเอริเทรียที่มีการกดขี่ด้วยระบบเกณฑ์ทหารเพื่อบังคับใช้แรงงานมานานหลายสิบปี และที่บุรุนดีกำหนดให้มีแรงงานทาส จึงเตือนผู้บริโภคในประเทศพัฒนาแล้วที่อาจซื้อสินค้าจากโรงงานที่ใช้แรงงานทาส ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และเครื่องแต่งกาย.