ไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนในอังกฤษ ได้เผยผลการวิเคราะห์ยีน (gene) หรือหน่วยควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของซากดึกดำบรรพ์ของมนุษย์เชดดาร์ (Cheddar Man) ที่พบในหุบเขาเชดดาร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษเมื่อปี พ.ศ.2446 เชื่อว่าอาจเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าโทนสีผิวของชาวยุโรปมีการพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆนักวิทยาศาสตร์ได้เจาะกะโหลกศีรษะของซากมนุษย์เชดดาร์เพื่อสกัดเอาสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) จากผงกระดูก ซึ่งวิจัยพบว่าชนพื้นเมืองดังกล่าวเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว แต่มีสีผิวคล้ำ ผมหยิกและมีนัยน์ตาสีฟ้า และยังสันนิษฐานว่ามนุษย์โบราณที่อาศัยอยู่แถบตอนเหนือมีการพัฒนาของสีผิวเป็นสีซีด เนื่องจากดูดซับแสงแดด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการผลิตวิตามินดีนอกจากนี้ยังพบว่ามนุษย์เชดดาร์มีข้อมูลทางพันธุกรรมเชื่อมโยง กับมนุษย์ยุคหินกลาง (Mesolithic) อื่นๆที่พบในสเปน ฮังการี และลักเซมเบิร์ก ซึ่งเคยมีการวิเคราะห์ดีเอ็นเอมาก่อนหน้านี้ คนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่าชนเผ่าร่อนเร่แห่งตะวันตก (Western Hunter Gatherers) ที่เดินทางมาถึงยุโรปโดยอพยพจากตะวันออกกลางหลังจากปลายยุคน้ำแข็งเมื่อราว 12,000 ปีก่อนด้านนักพันธุศาสตร์ประชากรจากวิทยาลัยทรินิตี้เมืองดับลิน ในไอร์แลนด์ มองว่าผลการวิจัยนี้มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีข้อมูลอื่นๆที่สนับสนุนว่านักล่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแถบยุโรปตะวันตกนั้นมีผิวสีคล้ำและดวงตาเป็นสีฟ้า และอ้างว่าชาวยุโรปสมัยใหม่เป็นส่วนผสมของชนเผ่าร่อนเร่ที่อาศัยอยู่ในยุโรปตะวันตกและชนเผ่าที่ริเริ่มทำเกษตรกรรม รวมถึงชนเผ่าที่อพยพมาจากตะวันออกในยุคสำริด โดยคนเหล่านี้นำมาซึ่งข้อมูลทางพันธุกรรมใหม่ๆ.