เวทีประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯตั้งแต่ช่วงวันจันทร์ 18-25 ก.ย. เหล่าผู้นำหรือบุคคลระดับหัวหน้ารัฐบาลทั่วโลกมากกว่า 100 คน กำหนดหารือกันในปัญหา สำคัญๆของโลก ทั้งยังมีการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯและนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส อีกทั้งประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ผู้นำซิมบับเว ซึ่งครองอำนาจยาวนานที่สุดคนหนึ่งของทวีปแอฟริกา
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุปัญหาสำคัญและอันตรายที่สุดของโลกยามนี้คือ เรื่องเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์และยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ประชาคมโลกจำเป็นต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อันตรายนี้อย่างระมัดระวัง ถือเป็นประเด็นสำคัญอันดับ 1
เรื่องต่อมาคือ ปัญหาชนกลุ่มน้อยมุสลิม โรฮีนจาถูกรัฐบาลเมียนมาผลักดันขับไล่ออกจากพื้นที่ถิ่นพำนักในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมาไปยังบังกลาเทศ นายกูเตอร์เรส ระบุชัดว่า รัฐบาลเมียนมา กำลังดำเนินการชำระล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาบนแผ่นดินเมียนมา และเป็นโอกาสสุดท้ายของนางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมา ที่จะหยุดยั้งสถานการณ์ไม่ให้กลายเป็นโศกนาฏกรรม ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดความรุนแรงปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธโรฮีนจากับฝ่ายความมั่นคง เมียนมาตั้งแต่ 25 ส.ค. ทำให้ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจาถูกผลักดันออกจากพื้นที่รัฐยะไข่ข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศแล้วราว 400,000 คน
เรื่องใหญ่อันดับ 3 คือ ภัยคุกคามจากสภาพ ชั้นบรรยากาศโลกร้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับพิบัติภัยธรรมชาติพายุและน้ำท่วมถล่มหลายพื้นที่ของโลก ไล่ตั้งแต่เฮอริเคนถล่มรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ตามด้วยเฮอริเคน ถล่มรัฐฟลอริดา พายุถล่มหลายประเทศหรือดินแดนทะเลแคริบเบียน ตลอดจนฝนตกน้ำท่วมและดินถล่มในบังกลาเทศ อินเดีย เนปาล และเซียร์ราลีโอน
...
อีกปัญหาสำคัญไม่แพ้กันคือ ประเด็นก่อการร้ายคุกคามชาวโลกอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการหารือเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสจะหารือกับชาติทวีปแอฟริกา 5 ประเทศ เพื่อระดมกำลังทหารปราบปรามกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง ตลอดจนหาทางป้องกันการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตปลุกระดมหาแนวร่วมลัทธิก่อการร้าย.