หลังหนังสือพิมพ์ “นิวยอร์ก ไทม์ส” แฉว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พร้อมนายจาเรด คุชเนอร์ ลูกเขย และนายพอล มานาฟอร์ต ประธานทีมหาเสียงของทรัมป์ เคยพบปะกับนางนาตาเลีย เวเซลนิตสกายา ทนายชาวรัสเซียผู้ทำงานให้รัฐบาลรัสเซียที่ตึกทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์ก เมื่อ 9 มิ.ย.2559 ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังได้รับอีเมลจากนายร็อบ โกลด์สโตน นักประชาสัมพันธ์ชาวอังกฤษ แจ้งว่า นางเวเซลนิตสกายามีข้อมูลที่จะสร้างความเสียหายให้นางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของทรัมป์แห่งพรรคเดโมแครต ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานชัดว่าทีมหาเสียงของทรัมป์ติดต่อกับรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ขณะที่ทรัมป์ จูเนียร์ ยอมรับว่าพบปะกันจริงแต่ไม่ได้ข้อมูลสำคัญใดๆนั้น

เมื่อ 11 ก.ค. ทรัมป์ จูเนียร์ ได้ชิงเผยแพร่อีเมลติดต่อกับโกลด์สโตนทางทวิตเตอร์ อีกทั้งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ “ฟ็อกซ์ นิวส์” ว่า ตนไม่ได้แจ้งเรื่องการพบปะครั้งนั้นซึ่งกินเวลาแค่ 20 นาทีต่อบิดาเพราะมันไม่มีอะไร นางเวเซลนิตสกายาไม่มีข้อมูลเรื่องนางคลินตัน แค่พูดเรื่องการรับลูกบุญธรรมชาวรัสเซียที่มีปัญหา การที่มีคนส่งอีเมลที่น่าสนใจและตนตอบสนองเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก แต่ถูกฝ่ายค้านขุดคุ้ยมาโจมตี

...

ในอีเมล นายโกลด์สโตนระบุว่า ข้อมูลลับที่นางเวเซลนิตสกายาจะบอกเป็นข้อมูลระดับสูงและละเอียดอ่อนอย่างแน่ชัด เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียและการสนับสนุนของรัฐบาลรัสเซียที่มีต่อทรัมป์ ซึ่งทรัมป์ จูเนียร์ ก็ส่งอีเมลตอบไปว่าตน “ชอบมาก” ในข้อมูลที่จะสร้างความเสียหายให้นางคลินตันนี้ ก่อนหน้านี้ โกลด์สโตนก็ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่วนนางเวเซลนิตสกายาอ้างว่าไม่มีข้อมูลที่จะสร้างความเสียหายให้นางคลินตันและว่าตนไม่ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลรัสเซีย ขณะที่ทรัมป์แถลงสั้นๆ ชมเชยลูกชายว่าเป็นคนคุณภาพสูงและโปร่งใส ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็ตีตัวออกห่างโดยปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิกลินด์ซีย์ เกรแฮม แห่งรัฐเซาท์แคโรไลนา แห่งพรรครีพับลิกันของทรัมป์เองชี้ว่าอีเมลนี้น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง ขณะที่นายอดัม ชิฟฟ์ สมาชิกระดับสูงของคณะกรรมาธิการข่าวกรองแห่งสภาคองเกรส เผยว่า ต้องการให้ทรัมป์ จูเนียร์ และผู้เข้าร่วมพบปะกันครั้งนั้นทุกคนไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการแห่งสภาคองเกรสหลายคณะกำลังสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่าแทรกแซงการเลือกตั้งและมีใครในทีมหาเสียงของทรัมป์สมรู้ร่วมคิดด้วยหรือไม่ ซึ่งทั้งทรัมป์และรัสเซียปฏิเสธมาตลอดว่าไม่เป็นความจริง.