หญิงสูงวัยน็อกเสียชีวิตในห้องอบซาวน่าของฟิตเนสในห้างดัง หลังช่วงเช้าไปออกกำลังกายแล้วเข้าอบซาวน่า กระทั่งช่วงเย็นพนักงานเห็นร่างนอนนิ่งผิวหนังพองลอกหลุดลุ่ยสิ้นลม ญาติผู้ตายโวยฟิตเนสไม่มีพนักงานดูแลลูกค้า หลังเกิดเหตุยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ขณะที่ทนายคนดังแจงเข้าข่ายคดีประมาททำให้มีผู้เสียชีวิตมีโทษทั้งจำและปรับ
เหตุหญิงสูงวัยเสียชีวิตในห้องอบซาวน่าย่านปากเกร็ด เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายทองพูน เพชรแก้ว อายุ 72 ปี สามีของนางธัญชนก เพชรแก้ว อายุ 71 ปี ผู้เสียชีวิตภายในห้องอบซาวน่าของฟิตเนสแบรนด์ดังที่ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของห้างสรรพสินค้าย่านแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และลูกสะใภ้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.อิศราวุฒิ นาคยา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อรับเอกสารไปขอรับศพออกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดผาสุกมณีจักร ในเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด ภายหลังเสร็จจากการติดต่อขอรับเอกสารเดินทางไปที่สถาบันนิติวิทยา ศาสตร์เพื่อขอรับศพ ขณะเดียวกันมีพนักงานของฟิตเนส 4 คน ที่ทำงานในช่วงที่เกิดเหตุ เดินทางเข้าให้ปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังเสร็จรีบเดินทางกลับทันที
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ศาลา 2 วัดผาสุกมณีจักร ภายในเมืองทองธานี นายทองพูน เพชรแก้ว สามี ผู้ตายพร้อมลูกสะใภ้เคลื่อนศพนางธัญชนกเดินทางมาถึงวัด ญาติเตรียมพิธีรดน้ำศพ นายจรัล เพชรแก้ว อายุ 45 ปี ลูกชายผู้ตายเปิดเผยว่า สอบถามพนักงานร้านฟิตเนสทราบว่าไม่ได้ลงเวลาว่าผู้ใช้บริการเข้าไปกี่โมง ออกมากี่โมง ไม่รู้ว่าทางร้านมีพนักงานเดินดูผู้ที่เข้ามาใช้บริการหรือไม่ ปกติถ้าเข้าไปใช้บริการทางร้านต้องมีแม่บ้านคอยเข้าไปทำความสะอาดเป็นรอบๆห้องซาวน่าแบบนี้เวลาคนไปใช้บริการ เทรนเนอร์ต้องรู้หมดว่าคนที่ออกกำลังกายมาต้องใช้ความร้อนเท่าไร เรื่องนี้ควรต้องรู้ ต้องมีคนดูแลหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุเจ้าของฟิตเนสยังไม่ได้ติดต่อมาเลย มีแต่หมอกับตำรวจที่ติดต่อมาให้ข้อมูล ถ้าทางร้านมีมาตรฐานต้องมีพนักงานคอยเดินตรวจดูตลอดเวลา อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก
...
ขณะที่นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ผู้ให้บริการซาวน่าหรือว่าฟิตเนสมีหน้าที่สอดส่องดูแล และรักษาความปลอดภัยให้กับผู้มาใช้บริการ ไม่ให้ถูกตู้อบลวกจนสุกหรือไหม้จนเกิดความเสียหายหรือเสียชีวิต ส่วนจะผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่ คงไม่เพราะว่าเปิดให้บริการในเรื่องของซาวน่า คงไม่มีเจตนาที่จะไปฆ่าคนตาย แต่การปล่อยปละละเลยไม่ดูแลลูกค้าให้ดี ปล่อยให้ลูกค้าไปใช้บริการซาวน่าแล้วถูกอบจนเสียชีวิต ตรงนี้ถือเป็นความประมาทของผู้ที่ให้บริการ เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องของประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท ในส่วนคดีแพ่งแน่นอนทางผู้ให้บริการฟิตเนสหรือซาวน่าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิต
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ร.ต.อ.อิศราวุฒิ นาคยา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องอบซาวน่าของฟิตเนสแบรนด์ดังที่ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของห้างสรรพสินค้าย่านแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด ไปสอบสวนพร้อมด้วยชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบศพนางธัญชนก เพชรแก้ว อายุ 71 ปี เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการอบซาวน่า นอนเสียชีวิต อยู่บนพื้นด้านหน้าห้องอบซาวน่าแบบห้องรวม สภาพตามลำตัวและแขนทั้งสองข้างผิวหนังพองลอกหลุดลุ่ย ใบหน้ามีรอยแดง ภายในห้องยังมีไอร้อน แพทย์ระบุผลการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าผิวหนังที่พองลอกจนหลุดลุ่ยเนื่องจากถูกความร้อนในห้องอบมานาน 5-6 ชม. เจ้าหน้าที่ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนนำร่างส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวนทราบว่านางธัญชนกเป็นลูกค้าประจำที่มาใช้บริการฟิตเนสและอบซาวน่าที่ร้านดังกล่าวเป็นประจำทุกวัน ปกติเข้ามาใช้บริการตั้งแต่ช่วงเช้า จะใช้บริการฟิตเนสก่อนแล้วค่อยอบซาวน่า ก่อนเกิดเหตุเข้ามาใช้บริการเป็นปกติ พนักงานเข้าใจว่านางธัญชนกเสร็จจากเข้ารับบริการได้กลับออกจากร้านไปแล้ว กระทั่งเวลา 18.00 น. พนักงานพบลูกค้าล้มพับหมดสติอยู่ภายในห้องซาวน่า รีบช่วยปฐมพยาบาลแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตไปก่อนแล้ว
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่