กลุ่มเป็นหนึ่งประสาน ดส. บุกช่วย ด.ญ.วัย 7 ขวบ หลังแม่เด็กร้องเรียน ส่งลูกให้สาวพม่าวัย 21 ปี ที่รู้จักทางกลุ่มปิดเฟซบุ๊กอุปการะ อ้างเลี้ยงไม่ไหวเพราะยากจนและยังตั้งท้อง 8 เดือน แต่สุดท้ายติดต่อลูกไม่ได้ หลังรับแจ้งตำรวจตามเจอเด็กและสาวพม่านำตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ เรื่องกลับตาลปัตร สาวพม่าให้การแม่เด็กขอเงินค่าอุปการะ 10,000 แต่ให้ได้แค่ 4,000 และถูกตามทวงบ่อยครั้งเลยเกิดเป็นเรื่อง ขณะที่ตำรวจเริ่มสงสัยเชื่อมโยงแก๊งค้ามนุษย์ เพราะในมือถือสาวพม่าพบรูปเด็กน้อยหลายคน อีกทั้งเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ เบื้องต้นแจ้งข้อหาแม่ในความผิดเกี่ยวกับค้ามนุษย์ ส่วนสาวพม่าผิดข้อหาพรากผู้เยาว์ ขณะที่เด็กส่งให้ พม.ดูแล
แม่ท้องโย้ขายลูกสาววัย 7 ขวบ ผ่านออนไลน์เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 30 มี.ค. ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.บช.น.) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ ประธานกลุ่ม “เป็นหนึ่ง” พานางวิภาดา อายุ 28 ปี อาชีพรับเลี้ยงผู้ป่วยติดเตียงเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. ให้ช่วยติดตาม ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ บุตรสาวที่ขาดการติดต่อ หลังมอบให้ผู้อุปการะรับไปดูแลผ่านเฟซบุ๊ก
น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ กล่าวว่า วันที่ 11 มี.ค. นางวิภาดาร้องเรียนผ่านเพจเป็นหนึ่ง ให้ช่วยติดตามบุตรสาววัย 7 ขวบ ระบุว่ามีฐานะยากจน มีลูกสองคนและกำลังตั้งครรภ์อีกหนึ่งคน ตอนนี้ท้อง 8 เดือน ไม่มีเงินเลี้ยงลูกเลยคิดหาคนมาอุปการะลูกด้วยการเข้ากลุ่มปิดในเฟซบุ๊กที่ประกาศรับอุปการะเด็ก ได้รู้จักกับ น.ส.พลอยชาวพม่า เสนอรับอุปการะลูก นางวิภาดาจึงนำ ด.ญ.เอไปส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อลูกได้อีก ถูก น.ส.พลอยบ่ายเบี่ยงไม่ให้พบก่อนที่ น.ส.พลอยจะเสนอว่าถ้าอยากได้ลูกคืนให้โอนเงินคืนมา 4,000บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกจึงมาขอความช่วยเหลือ
...
หลังรับเรื่อง พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. สั่งการฝ่ายสืบสวนสอบปากคำในเบื้องต้นพร้อมประสาน สภ.คลองหลวง เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.เอ โดยพบ น.ส.พชร หรือพลอย ไทยะฝาย อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา อาชีพรับเลี้ยงเด็ก ให้การว่า ได้นำ ด.ญ.เอไปฝากเลี้ยงไว้กับแม่ที่ย่านสุขสวัสดิ์ และไม่ได้มีเจตนาลักพาตัว เจ้าหน้าที่นำตัว น.ส.พชร หรือพลอย ไปที่บ้านย่านสุขสวัสดิ์ เมื่อไปถึงพบ ด.ญ.เออยู่ในบ้านเช่ากับเด็กอีกหนึ่งคน ก่อนนำตัวนางวิภาดาและลูกสาวรวมทั้ง น.ส.พชร หรือพลอย มาสอบสวนที่ กก.ดส. บช.น.พร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มาร่วมสอบปากคำ
หลังการสอบสวน น.ส.ชลิดากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลที่ค่อนข้างย้อนแย้งกับสิ่งที่นางวิภาดา แม่ของเด็กร้องเรียน เนื่องจากนางวิภาดามีพฤติกรรมหาผู้รับอุปการะเลี้ยงดูลูกสาวอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้นางวิภาดา เสนอให้ น.ส.พชรจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู 10,000 บาท แต่ น.ส.พชรต่อรองขอจ่าย 4,000 บาท อ้างว่าหากเด็กดีจะจ่ายส่วนที่เหลือ แต่นางวิภาดาต้องการเงิน 6,000 บาท ที่เหลือได้พยายามทวงบ่อยครั้ง ทำให้ น.ส.พชร หรือพลอย ขอเงิน 4,000 บาทคืน เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ขอมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือ ด.ญ.เอก่อน โดยให้เด็กอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่พม.
น.ส.ชลิดากล่าวอีกว่า ฝากไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบกรณีกลุ่มปิดตามสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะซื้อขายเด็กหรือรับอุปการะต่างๆขณะนี้มีเป็นจำนวนมาก เชื่อว่ายังมีคนไม่พร้อมเลี้ยงดูบุตรหลานอีกจำนวนมาก สามารถปรึกษาหน่วยงานรัฐผ่านสายด่วน พม. โทรศัพท์ 1300 เพื่อช่วยหาทางออก ไม่ใช่นำลูกมาขายแบบนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำนางวิภาดาและ น.ส.พชรอย่างละเอียด เพื่อขยายผลจะเข้าข่ายความผิดข้อใดบ้าง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น.เผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับนางวิภาดา แม่ ด.ญ.เอ ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ส่วน น.ส.พชร หรือพลอย มีความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 13 ปีไปจากบิดามารดา นำตัวส่ง สภ.พระประแดง จุดที่พบเด็กให้ดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ยังพบว่าที่บ้าน น.ส.พชร จุดที่นำ ด.ญ.เอไปเลี้ยงในพื้นที่ สภ.พระประแดง ยังมีเด็กถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวอีก 1 คน และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ น.ส.พชร ยังพบภาพเด็กอีกหลายคน ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่าเหตุที่ น.ส.พชรนำเด็กไปอุปการะทั้งๆที่ไม่ได้มีรายได้มากมาย มีวัตถุประสงค์อะไร มีการเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะในชั้นนี้ผู้ต้องหายังไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนต่อว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลใดหรือไม่ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่