ตำรวจกองปราบปรามลุยขยายผลเครือข่าย “ใบขวัญ-รัชญา” นักร้องฮิปฮอปดัง แอบอ้างองคมนตรีและหน่วยงานราชการลวงเหยื่อ 300 ราย ร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังความแตกเพราะนักร้องดังเสียชีวิตกะทันหัน รวบรวมหลักฐานจับเครือข่าย 10 คน อายัดทรัพย์เกือบ 280 ล้านบาท เอาไปแบ่งคืนผู้เสียหายแล้ว ซุ่มออกหมายจับบุกรวบ 2 ผัวเมียผู้ร่วมขบวนการ หลังตรวจสอบเส้นทางการเงินพบรับโอนเงินมาจากนักร้องฮิปฮอปดังก่อนตายรวม 86 ล้านบาท แถมเอาเงินไปแปรเป็นทรัพย์สินบางส่วน
กองปราบปรามขยายผลเครือข่ายใบขวัญ หลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาฐานหลอกลวงเหยื่อจำนวนมากว่า สามารถเข้าโครงการกู้เงินก้อนใหญ่หลักพันล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ความคืบหน้าจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มี.ค. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป.พร้อมกำลังจับกุม น.ส.ธมลวรรณ กิติวงค์ อายุ 41 ปี และนายภูชิตธิกร กิติวงค์ อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา ที่บ้านในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตามหมายจับศาลอาญาที่ 779-780/2566 ลงวันที่ 27 ก.พ.67 ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่มีการสมคบกัน
คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงต้นปี 2566 ผู้เสียหายประมาณ 300 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่า ตั้งแต่ช่วงปี 2559 เป็นต้นมาได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนจาก น.ส.รัชญา หรือใบขวัญ ยอดแก้ว แอบอ้างสร้างความน่าเชื่อถือสารพัด รู้จักกับสถาบันการเงินสามารถเข้าถึงโครงการเงินกู้วงเงินสูง แต่อัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้ยังกล้าแอบอ้างชื่อองคมนตรี และหน่วยงานราชการต่างๆ ทำให้เหยื่อเกิดความเชื่อถือ แต่ถ้าต้องการกู้วงเงินหลักพันล้านบาท ต้องเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่รายละ 10-100 ล้านบาท จากความน่าเชื่อถือที่ผู้ต้องหาสร้างขึ้น ทำให้ผู้เสียหายจำนวนมากยอมจ่ายเงินค่าธรรมเนียม นำเงินมาร่วมโครงการจนมีผู้ตกเป็นเหยื่อในวงกว้าง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
...
หลังจากได้เงินจากเหยื่อ น.ส.รัชญา หรือ ใบขวัญ ยอดแก้ว เริ่มสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ด้วยการออกงานสังคมโด่งดังในโลกโซเชียล เปิดแอปพลิเคชันของตัวเอง แถมนำเงินที่หลอกลวงเหยื่อมาได้บางส่วน ไปเปิดค่ายเพลงสไตล์ฮิปฮอปชื่อ B ENTER TAINMENT BEAT (B.E.B) ส่งตัวเองเป็นศิลปินในสังกัดจนมีเพลงดัง อาทิ เพลงจีบแล้วนะ มียอดวิวถึง 8 ล้าน นอกจากนี้ยังไล่เซ็นสัญญาปั้นศิลปินสไตล์ ฮิปฮอปเข้าสังกัดอีกหลายคน เพื่ออำพรางแหล่งที่มาเงินรายได้ ระหว่างนั้นวางแผนการยักย้ายถ่ายเทเงินจำนวนมากด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของเครือญาติและเพื่อนหลายคน รวมทั้งนำเงินไปซื้อทรัพย์สินต่างๆอันเข้าลักษณะฟอกเงิน อาทิ รถหรู บ้าน และสินค้าแบรนด์เนม ฯลฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ขณะที่ความยังไม่แตก เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2566 ใบขวัญ-รัชญา ยอดแก้ว ฐานะศิลปินฮิปฮอปที่โด่งดังในโลกออนไลน์ เสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคประจำตัว แฟนเพลงส่วนหนึ่งโพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไป แต่สำหรับผู้หลงเชื่อนำเงินมาลงทุนด้วยรวมกว่า 2 พันล้านบาทเริ่มร้อนใจ เพราะไม่รู้ว่าจะไปติดตามเอาเงินที่ลงทุนไปคืนจากใคร สอบถามเรื่องเงินที่ลงทุนไปกับใคร ก็ไม่รู้เรื่อง เหมือนการลงทุนนี้ไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ตัดสินใจพากันทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม เพราะเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการถูกหลอกลวง ตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบยอดความเสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงตัวเลข 2 พันล้านบาท
หลังสืบสวนเก็บข้อมูลพยานหลักฐาน ตรวจสอบเส้นทางการเงินจำนวนมากอยู่เกือบ 1 ปีเต็มจนแน่นหนา เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2567 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป.พร้อมกำลัง เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายศิลปินดัง ใบขวัญ-รัชญา แอบอ้างโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 2,000 ล้านบาท จับกุมผู้ร่วมขบวนการรวม 10 คน ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารราชการปลอม ข้อหาทุจริตหรือหลอกลวง โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาสมคบฟอกเงิน อายัดของกลาง รถหรู 1 คัน รถยนต์ 6 คัน เงินสด 554,800 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 59 ใบ นาฬิกาหรู 6 เรือน เครื่องประดับ 41 รายการ แว่นตาแบรนด์เนม 38 อัน หมวกแบรนด์เนม 20 ใบ กีตาร์ 3 ตัว เงินสดในบัญชีธนาคาร 174 ล้านบาท และอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 60 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 279,178,683 บาท
หลังดำเนินการทลายเครือข่าย ชุดสืบสวนกองปราบปรามยังไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำเงินที่ถูกหลอกลวงกลับมาเยียวยาผู้เสียหาย เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากและวงเงินที่ได้ไปสูงถึง 2 พันล้านบาท จากการตรวจสอบขยายผลทราบว่า น.ส.ธมลวรรณ กิติวงค์ และนายภูชิตธิกร กิติวงค์ สองสามีภรรยารับโอนเงินมาจาก น.ส.รัชญา หัวหน้าขบวนการที่เสียชีวิตไปแล้ว ในลักษณะฟอกเงินจำนวน 86 ล้านบาท ก่อนโอนให้กับบุคคลอื่น รวมถึงนำไปแปรสภาพเป็นทรัพย์สินอีกส่วนหนึ่ง รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลอาญา กระทั่งตามจับกุมตัวทั้งคู่ได้ดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมั่นใจเพราะมีหลักฐานเส้นทางการเงิน ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป