สืบนครบาลกัดไม่ปล่อย เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิง 2” ล้างองค์กรทมิฬไล่ฆ่าอริเด็กช่างกล ปูพรมค้น 14 จุด 14 หมายจับทั่ว กทม.ปริมณฑล ผลปฏิบัติจับกุมได้ 12 คน 1 ในนั้น มี “ไอ้วุฒิ” นศ.ปี 3 ช่างกลปทุมวันตัวชี้เป้าและคนขับรถพา “ไอ้วิน-ไอ้เลาะ” มือยิงและคนขี่รถ จยย.คดีฆ่า “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” หลบหนี จากนั้นพาค้นบ้านหรูที่แม่ซื้อให้ย่านร่มเกล้า ยึดปืน .45 กระสุนอีกเพียบอยู่ในรถเก๋งที่เกี่ยวพันในคดี เจ้าตัวอ้างซื้อไว้เพื่อป้องกันตัว ส่วน “ไอ้เป๊ปซี่” หนุ่มปากดีกล่าวหาตำรวจจับแพะ คราวนี้ไม่รอดถูกจับด้วย เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ
จากเหตุเด็กช่างกลสถาบันคู่อริไล่ยิง นศ.มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ย. 66 ทำให้นายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 เสียชีวิตและยังทำให้ น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมาถูกลูกหลงกระสุนเจาะหน้าผากเสียชีวิตไปอีกคน กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญจนสังคมรับไม่ได้ ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.นำกำลังเข้าตรวจค้นหลายจุดใน กทม.และปริมณฑล จับกุม 9 ผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมก่อเหตุ พบว่ามีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม แกนนำผู้มีผลงานจะมีสัญลักษณ์รอยแผลเป็นรูปฟันเฟือง 4 อัน ที่ต้นแขน พร้อมเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่เหลือคือ นายอนาวิน หรือวิน แก้วเก็บ มือปืน นายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดือราแม คนขี่รถ จยย. และนายนภวุฒิ หรือวุฒิ เรืองศรี คนชี้เป้าตามที่เสนอข่าวไปนั้น
...
ล่าสุดสืบนครบาลกัดไม่ปล่อยเปิดปฏิบัติการปิดเมืองรอบ 2 ล่าแก๊งเด็กช่างกลทมิฬ โดยเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูสสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการชุดสืบสวนนครบาล แบ่งกำลังนำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้น 14 จุด ใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ-นนทบุรี -ปทุมธานี-สมุทรปราการ เพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงนายธนสรณ์ หรือน้องหยอด ห้องสวัสดิ์ และ น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี
ผลการปฏิบัติจับกุมผู้ต้องหา 12 คน ตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 16 ธ.ค.66 แบ่งเป็นข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” คือ นายชนัญชิต หรือเป๊ปซี่ แสงจันทร์ อายุ 21 ปี ชาว จ.ปทุมธานี นายจิรเมธ นามณรงค์ อายุ 20 ปี ชาว จ.นนทบุรี นายกันตพงศ์ พรมพิทักษ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร นายขจรศักดิ์ แต้ม ชัยภูมิ อายุ 25 ปี ชาว จ.ขอนแก่น นายกรกฎ ตื้อแอ้ อายุ 20 ปี ชาว จ.ขอนแก่น นายสุขสันต์ กองแก้ว อายุ 22 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายชุมนุมโชค เอี่ยมปาน อายุ 21 ปี ชาว จ.นนทบุรี นายนครินทร์ นาคิน อายุ 29 ปี ชาว จ.ปทุมธานี นายณัฏฐกิตต์ คำเก่า อายุ 33 ปี ชาว จ.สุโขทัย
นอกจากนี้ ยังจับกุม น.ส. อัญญารัตน์ ทองสุข อายุ 24 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายธนโชติ บุญสงเคราะห์ อายุ 22 ปี ชาว จ.สมุทร ปราการ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 16 ธ.ค.66 ข้อหา “สนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
สำหรับผู้ต้องหาคนสำคัญที่ถูกจับกุมคือ นายนภวุฒิ หรือวุฒิ เรืองศรี อายุ 25 ปี นศ.ปี 3 สถาบัน เทคโนโลยีปทุมวัน คนชี้เป้ายิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 22 พ.ย. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้”
หลังการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ถูกนำตัวขึ้นไปสอบปากคำบนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลทันที มี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเองเพื่อขยายผลจับกุมนายอนาวิน และนายอับดุลเลาะ 2 ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เบื้องต้นทั้ง 12 รายยังให้การปฏิเสธ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม พบว่ามี 5 คน มีรอยแผลเป็นรูปฟันเฟืองอยู่ที่ไหล่ซ้าย 2-4 อัน ตามผลงานความเชื่อของกลุ่ม
มีรายงานด้วยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม มีนายชนัญชิต หรือเป๊ปซี่ แสงจันทร์ เป็นบุคคลที่เคยไปเยี่ยมเพื่อนถูกจับลอตแรกเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และกล่าวหาตำรวจชุดจับกุมว่าจับแพะ พร้อมท้าทายให้ไปเจอกันในชั้นศาล ตัวนายชนัญชิต มีประวัติร่วมกันก่อเหตุยิงถล่มงานแต่งงานศิษย์เก่าอุเทนถวายเมื่อกลางเดือน ส.ค.65 เหตุเกิดพื้นที่ สน.สุทธิสารอีกด้วย
กระทั่งเวลา 13.40 น. ชุดจับกุมนำตัวนายชนัญชิต หรือเป๊ปซี่ แสงจันทร์ ไปส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดี ระหว่างนำตัวขึ้นรถผู้สื่อข่าวถามนายชนัญชิตว่ามีอะไรอยากจะพูดหรือไม่นายชนัญชิตหยุดชะงักครู่หนึ่งและพูดขึ้นว่า “ผมมีอะไรอย่างที่จะพูด ผมชอบแมนยู ครับพี่” ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถออกไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก. สน.มีนบุรี พร้อมกำลังควบคุมตัวนายนภวุฒิ เรืองศรี อายุ 25 ปี เข้าตรวจค้นบ้านนายนภวุฒิ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เลขที่ 296/228 ในหมู่บ้านเฟอร์เฟค พาร์ค ซอยร่มเกล้า 6/1 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. พบรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์ทองทะเบียน 2 ขค 5854 กรุงเทพมหานคร ของนายนภวุฒิจอดอยู่ ภายในบ้านไม่มีผู้อาศัย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ส่วนภายในรถเก๋งฮอนด้า พบกระเป๋าเป้สีเทา 1 ใบ ภายในมีกล่องสีดำใส่ปืน .45 ยี่ห้อโคลท์พร้อมกระสุน 36 นัด และ .38 อีก 3 นัด แมกกาซีน 2 อัน ถุงมือ 1 ข้าง เสื้อผ้า 1 ชุด ถังน้ำมันสีดำ 1 แกลลอน 10 ลิตร ยึดไว้เป็นหลักฐาน
...
นายนภวุฒิรับว่า เป็นเจ้าของปืน และพกติดตัวไว้ป้องกันตัว ซื้อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ พร้อมกระสุนปืนและแมกกาซีนแบบสั้นและแบบยาว ขนาด 15 นัด 1 อันและ 7 นัด 1 อัน เป็นปืนไม่มีทะเบียน ส่วนน้ำมันที่พบนั้นเพราะชอบเดินป่าได้ซื้อน้ำมันติดรถไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าน่าจะเตรียมไว้ทำภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง
หลังการตรวจค้น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า แนวทางการสอบสวนพบว่า นายนภวุฒิเป็นผู้ขับรถกระบะไปรับ 2 ผู้ก่อเหตุที่ยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดเสียชีวิต จากนั้นขี่ จยย.ไปพ่นสีที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วขี่ต่อไปที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่นายนภวุฒิจะขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ไปรับทั้ง 2 คนเพื่อหลบหนีไปส่งอีกที่ ขณะนี้ยังไม่เจอทั้งรถกระบะ และรถ จยย.ของผู้ก่อเหตุ หลังนายนภวุฒิส่ง 2 ผู้ต้องหาเสร็จ ได้ให้แฟนสาวขับรถเก๋งคันดังกล่าวที่พบจอดอยู่ในบ้านไปรับกลับมา กทม. และขับรถมาจอดไว้ในบ้านหลังนี้ที่แม่ของนายนภวุฒิซื้อให้ในราคา 5 ล้านบาท แต่ยังเป็นชื่อแม่ ส่วนรถเป็นชื่อของนายนภวุฒิ
รอง ผบช.น.เผยต่อว่า จากการตรวจสอบยังพบว่า นายนภวุฒิเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 และทำงานเป็นช่างแอร์ไปด้วย มีเงินสนับสนุนเพื่อน เนื่องจากนายนภวุฒิเป็นนักศึกษา อยากให้ตั้งใจเรียน และอยากเตือนว่าการพกปืนแบบนี้เจตนาส่อไปในทางไม่ดี เชื่อว่ามีนักศึกษาแค่ส่วนน้อยที่มีความเชื่อและความคิดแบบผิดๆ ในส่วนผู้ต้องหาที่ออกหมายจับมี 14 คน ในวันนี้จับได้ 12 ราย ส่วนนายวินและนายเลาะ ที่ยังหลบหนี ตำรวจจะไม่เลิกไล่ล่าถ้ายังไม่ได้ตัว หากมีใครช่วยเหลือสนับสนุนหรือพาหลบหนี มีโทษตามกฎหมายทั้งหมด ขอฝากถึงนักศึกษาทุกคนอยากให้ตั้งใจเรียน หาความรู้ ผิดไปแล้วขอให้ปรับตัวแก้ไข ผู้ปกครองก็ต้องใส่ใจดูแลลูกหลานท่านให้ดี
...
มีรายงานว่าการปฏิบัติการครั้งนี้ หลังจับกุมผู้ต้องหา 9 รายในการปฏิบัติการครั้งแรก ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการองค์กรทมิฬที่เหลือ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รวบรวมหลักฐานจนพบกลุ่มไลน์ของคนร้าย ทราบว่าได้วางแผนทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ มีการรวบรวมเงินเช่าเซฟเฮาส์ วางแผนหาปืนหายานพาหนะหลบหนี รวมทั้งฝึกยิงปืนจากรุ่นพี่ คนร้าย มีเป้าหมายชัดเจนในการก่อเหตุ อีกทั้งตามหลักฐานที่ได้มา กลุ่มคนร้ายจะมีการรับน้องในวันที่ 12 พ.ย. จะต้องก่อเหตุก่อนรับน้องจึงลงมือก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. โดยตระเตรียมการวางแผนไว้แล้ว
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่