พ่อนิสิตสาวปริญญาเอกพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ตามความคืบหน้าของคดีและขอให้พิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มหนุ่มขี้เมาตัวต้นเหตุทำลูกสาวตกระเบียงห้องชั้น 6 ดับสลด ขณะที่ผู้การ น.4 อ้อมแอ้มอ้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ระบุอยู่ระหว่างหารือต้องขอดูหลักฐานให้ชัดเจน รวมทั้งเรียกสอบแม่บ้านแมนชันที่เกิดเหตุอีกครั้งด้วยว่าจะถูกแจ้งข้อหาด้วยหรือไม่
จากเหตุสลด เมื่อนายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณี น.ส.อาภาภรณ์ หรือน้องเฟิร์น สีชำนาญ อายุ 27 ปี ลูกสาว กำลังเรียนปริญญาเอก ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน พลัดตกจากห้องพักชั้น 6 ภัทรีดาแมนชั่น ซอยลาดปลาเค้า 3 เสียชีวิต เพราะตกใจที่นายสมมาตร ชูเชิด อายุ 41 ปี พักใน อาคารเดียวกันเมาสุราและขึ้นไปบุกทุบห้องพักของ น.ส.อาภาภรณ์ โวยวายด้วยเหตุเข้าใจผิดว่าเป็นผู้นำรถ จยย.มาจอดทับที่ของตัวเอง ทำให้ น.ส.อาภาภรณ์ตกใจกลัวปีนระเบียงหลังห้องหนีไปห้องข้างๆแต่พลัดตก ลงมาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. นายสมมาตรถูกแจ้งเพียงแค่ 3 ข้อหาลหุโทษ ไร้ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ขณะที่ร่างของ น.ส.อาภาภรณ์ ครอบครัวฌาปนกิจแล้วที่บ้านเกิด อ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำนายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อ น.ส.อาภาภรณ์ เข้าพบ พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคชัย และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพร้อมขอให้ตำรวจพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม นายสมมาตรผู้ก่อเหตุ รวมถึงสอบถามกรมคุ้มครองสิทธิฯถึงการชดเชยเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้น
...
นายเอกภพกล่าวว่า วันนี้พาพ่อผู้ตายมาพบ ผกก.สน.โชคชัย สอบถามว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุในความผิดเรื่องเจตนาฆ่าได้หรือไม่ เพราะผู้ตายไม่ได้ตกตึกลงมาเองแต่เป็นเพราะผู้ก่อเหตุมาเคาะประตูรัวส่งเสียงดังในเวลา 04.00 น. จนทำให้ผู้ตายเป็นผู้หญิงที่อยู่อาศัยคนเดียว และเป็นคนตกใจง่ายอยู่แล้วเกิดความตื่นกลัวและหาวิธีเอาตัวรอดก่อนพลัดตกตึกเสียชีวิต
พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องได้ประสานแม่ผู้ตายมาสอบถามเน้นย้ำว่าจะทำคดีอย่างเต็มที่ แจ้งข้อกล่าวหาได้ 3 ข้อหาคือ พยายามบุกรุกยามวิกาล, ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และทำให้เกิดเหตุอึกทึกครึกโครม แต่การสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบปากคำพยานอื่นที่พักชั้นเดียวกับผู้ตายเพิ่มเติม โดยสอบพยานแล้ว 5 ปาก และจะเชิญแม่บ้านผู้ดูแลตึกที่บอกห้องผู้ตายให้กับผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเช่นกัน รวมถึงจะส่งภาพจากกล้องวงจรปิดให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ผบช.น.ได้สั่งตั้งคณะทำงาน เพื่อหารือเกี่ยวกับการแจ้งข้อหาเดิมว่าเพียงพอแล้วหรือไม่
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯกล่าวว่า การชดเชยเยียวยาโดยกรมคุ้มครองสิทธิฯหากพิจารณา แล้วเข้าข่ายกฎหมายจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินค่าดำเนินการต่างๆรวม 1 แสนกว่าบาท
นายสมชาย สีชำนาญ พ่อผู้ตายกล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้น ขอบคุณตำรวจที่จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่ยังรู้สึกติดใจแม่บ้านที่บอกว่า จยย.เป็นของลูกสาวและบอกว่าอยู่ห้องไหน และยังบอกว่า ผู้ต้องหาบุกขึ้นไปโวยวายไปเคาะห้องโดยไม่มีอาวุธติดตัว ผู้ต้องหาอาจพกปืนและมีดติดตัวมีเสื้อปกคลุมก็ได้ ตนยังไม่เคยพบผู้ต้องหาที่บอกว่าไปขอขมาตนและศพลูกสาว ไม่รู้จะพูดอะไร สูญเสียลูกไปแล้ว ถ้าเขาดูอยู่ขอให้มีจิตสำนึกทำอะไรขอให้มีสติมากกว่านี้และให้พูดความจริง ส่วนลูกสาวขอให้ไปสู่สุคติ พ่อมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ กับ พ.ต.อ.เศรษพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคชัย ถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับข้อกล่าวหาเดิมที่แจ้งคู่กรณีไป 3 ข้อหาว่าเป็นข้อหาที่เบาเกินไปหรือไม่ มองว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน ต้องดูหลักฐานให้ชัดเจน ส่วนแม่บ้านที่ดูแลหอพักและเป็นคนให้ข้อมูลคู่กรณีในเรื่องห้องพักผู้เสียชีวิตนั้นจะเชิญตัวมาให้ข้อมูลส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่