เคาะมาตรการเยียวยารอบใหม่ ทุ่มงบ 2 แสนล้านต่ออายุ "เราชนะ" 2 เดือน

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เคาะมาตรการเยียวยารอบใหม่ ทุ่มงบ 2 แสนล้านต่ออายุ "เราชนะ" 2 เดือน

Date Time: 20 เม.ย. 2564 06:05 น.

Summary

ครม.วันนี้ (20 เม.ย.) เตรียมคลอดมาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่บรรเทาผลกระทบประชาชนเล็งต่ออายุ “เราชนะ” อีก 1-2 เดือน ใช้เงินเพิ่ม 1-2 แสนล้านบาท

Latest

แบงก์ชาติ - ส.ธนาคารไทย ออกมาตรการเพิ่มเติมช่วยลูกหนี้ฯ ที่เจอผลกระทบจากน้ำท่วมใต้

ครม.วันนี้ (20 เม.ย.) เตรียมคลอดมาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่บรรเทาผลกระทบประชาชนเล็งต่ออายุ “เราชนะ” อีก 1-2 เดือน ใช้เงินเพิ่ม 1-2 แสนล้านบาท ด้านสำนักงบประมาณ เผยมีงบกลาง-เงินกู้ที่ใช้เยียวยาผลกระทบโควิดได้อีก 2.6 แสนล้านบาท หากจำเป็นอาจขยายเพดานหนี้สาธารณะเพื่อกู้เงินเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 เม.ย. กระทรวงการคลังจะเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 ให้พิจารณา เนื่องจากประเมินว่าโควิด-19 ระลอกใหม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง จากการแพร่กระจายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ จึงจะเสนอให้ต่ออายุและเพิ่มเงินในมาตรการเราชนะออกไปอีก 1-2 เดือนจากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เป็นสิ้นสุดเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ ซึ่งจะใช้เงินเพิ่ม 100,000-200,000 ล้านบาท และดำเนินการต่อเนื่องได้ทันที

อย่างไรก็ตาม หาก ครม.เห็นชอบยังต้องหารือกับคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ เนื่องจากต้องมีการขออนุมัติและเสนอขอ ครม.โยกเงินในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันเหลืองบไม่มากให้มาอยู่ในส่วนของวงเงินเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อใช้เยียวยาช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ด้านนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกล่าวว่า ปัจจุบันวงเงินที่ใช้เยียวยาประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 เหลืออยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.เงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเหลืออยู่ 200,000 ล้านบาท และ 2.งบกลางในปี 64 ซึ่งเดิมตั้งงบกลางไว้ 139,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกลางรายการสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินและจำเป็น 99,000 ล้านบาท ปัจจุบันใช้แล้ว 19,000 ล้านบาท คงเหลือ 80,000 ล้านบาท และงบกลางในส่วนโควิด 40,000 ล้านบาท คงเหลือ 20,000 ล้านบาท โดย 20,000 ล้านบาทที่ใช้ไป รัฐบาลใช้มัดจำซื้อวัคซีน และเพิ่มค่าตอบแทนให้บุคลากรทางการแพทย์

“รวมแล้วงบกลางที่คงเหลือ 2 ส่วนสามารถใช้ได้ 100,000 ล้านบาท หากนำไปเยียวยาประชาชนคงใช้ 50,000-60,000 ล้านบาท เพราะต้องกันบางส่วนไว้รองรับภัยพิบัติจากภัยแล้ง น้ำท่วม หรืออื่นๆ 40,000-50,000 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมเงินกู้ที่เหลือและงบกลางที่ใช้เยียวยาประชาชนได้จะอยู่ที่ 250,000-260,000 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม ในปีงบ 64 ไม่จำเป็นต้องโอนงบจากส่วนราชการมาใช้เยียวยาผลกระทบโควิดเพิ่มเหมือนปี 63 ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน และการโอนเงินจากส่วนราชการใช้เวลา 2-3 เดือน หากจะทำตอนนี้คงไม่ทัน และขณะนี้วงเงินที่เหลืออยู่ยังมีเพียงพอรับมือโควิดได้ เพราะการออกมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละครั้งใช้เงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท ส่วนงบจัดซื้อวัคซีนที่อนุมัติแล้ว 6,000 ล้านบาท อยู่ในส่วนของงบปี 64 ไม่ได้ตั้งงบจัดซื้อไว้ในงบปี 65 แต่หากจำเป็นต้องใช้เงินสามารถใช้งบของกรมควบคุมโรคสำหรับการจัดซื้อวัคซีนทั่วไปได้

นายเดชาภิวัฒน์กล่าวต่อว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 20 เม.ย.นี้ สำนักงบประมาณจะเสนอให้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท เพื่อขอจัดทำเอกสารงบประมาณ โดยแบ่งเป็นประมาณการรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท และการกู้งบประมาณขาดดุล 700,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 4 รัฐบาลยังมีงบกลางที่จะดึงมาใช้ ได้อีก 89,000 ล้านบาท รวมทั้งงบกลางฉุกเฉินเมื่อจำเป็นที่สำรองไว้สำหรับภัยพิบัติอีก 50,000 ล้านบาท ส่วนความจำเป็นในการกู้เงินเพิ่มเติมจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น ตามวินัยการเงินการคลังกำหนดว่า หนี้สาธารณะต้องไม่เกิน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งสามารถใช้เกณฑ์นี้ได้ในภาวะปกติ แต่ในช่วงโควิด ถ้าจะกู้เงิน เพิ่มอาจต้องขยับเพดานวินัยการเงินการคลัง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ