
คลินิกแก้หนี้ขยายยาแก้หนี้ 2 สูตรใหม่ ขยายเวลา “ลดดอกและพักหนี้” ลูกหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นหนี้เสียและต้องการแก้หนี้จนถึงกลางปี 64 เพื่อลดผลกระทบโควิด หลังกดปุ่มเปิดโครงการ 6 เดือน ได้ผลดีเกินคาด ลูกหนี้กลับมาส่งหนี้ได้มากถึง 94%
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ประชุมเพื่อประเมินผลมาตรการช่วยเหลือ “ยา 2 สูตร” หรือการลดดอกเบี้ยและการพักชำระหนี้ ซึ่งได้ดำเนินการใน 6 เดือนที่ผ่านมา (เม.ย.-ก.ย.63) พบว่า ผลที่ออกมาโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ลูกหนี้ที่เข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ส่วนใหญ่ประมาณ 94% ยังจ่ายชำระค่างวดอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบและพักชำระหนี้มีเพียง 6% เท่านั้น
“ลูกหนี้ที่เลือกวิธีเลื่อนกำหนดชำระหนี้หรือเลือกที่จะใช้ “ยาสูตรที่ 1” มีเพียง 6% แม้ว่าโครงการกำหนดให้เป็นสิทธิสำหรับลูกหนี้ทุกรายที่จะเลื่อนกำหนดชำระหนี้ โดยไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ผลที่ออกมาชี้ว่าการลดดอกเบี้ย 2% ถือเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพไม่เลือกที่จะพักชำระหนี้ และยังคงชำระค่างวดเข้ามาตามปกติ หรือเลือกที่จะใช้ “ยาสูตรที่ 2” คือ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 2% มีสูงถึง 94% ซึ่งประกอบด้วยลูกหนี้ที่ชำระหนี้ในอัตราค่าผ่อนเดิม 74% ในขณะที่ลูกหนี้ 20% ชำระหนี้ได้บางส่วน จำนวนเงินขั้นต่ำสุด 100 บาท”
นางธัญญนิตย์กล่าวต่อว่า ผลดังกล่าวทำให้เราประเมินว่า มาตรการช่วยเหลือ ยา 2 สูตรของโครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถตอบโจทย์ของลูกหนี้และเจ้าหนี้ไปพร้อมๆกัน ลูกหนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้รับการผ่อนปรนให้พักชำระหนี้โดยไม่ถือว่าผิดนัด ประวัติจะไม่เสีย ในขณะที่ลูกหนี้ที่ยังผ่อนชำระเข้ามาต่อเนื่อง ได้รับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงโควิด ซึ่งในมุมนี้ถือว่าช่วยลดความกังวลด้านสภาพคล่องของสถาบันการเงินด้วย อย่างไรก็ตาม มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่ไม่แจ่มใสนักและยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก คณะกรรมการจึงขยายมาตรการช่วยเหลือออกไปจนถึงเดือน มิ.ย.2564
“คณะกรรมการประเมินว่า แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยยังไม่แจ่มใสนัก และอาจจะใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่จะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับปกติ จึงเห็นควรให้ปรับปรุงและขยายมาตรการความช่วยเหลือออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือน มิ.ย.ปีหน้า เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของลูกหนี้ในช่วงที่ยากลำบาก”
สำหรับความคืบหน้าของโครงการคลินิกแก้หนี้ ณ เดือน ก.ย.2563 โครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถช่วยประชาชนแก้หนี้บัตรไปแล้วกว่า 24,000 ใบ ครอบคลุมลูกหนี้กว่า 8,300 ราย ซึ่งมีหนี้บัตรเฉลี่ยรายละ 3 ใบ มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 240,000 บาท และขณะนี้มีลูกหนี้ที่รอลงนามในสัญญาอีกกว่า 900 ราย และอีก 1,200 ราย อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจเช็กข้อมูลกับสถาบันการเงิน คาดว่าในปี 2563 ตัวเลขผู้เข้าร่วมโครงการสะสมจะเกิน 10,000 ราย.