
สหภาพฯ ธนาคารธนชาต ร้องรัฐช่วยเยียวยา คาดถูกบีบหลังควบรวม TMB
สหภาพแรงงานธนาคารธนชาต ร้องรัฐช่วยเยียวยาเงินชดเชยสูงกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด คาดถูกบีบออกจากงาน 4,000–5,000 คน หลังควบรวมกับ TMB ขณะที่ สคร. บอกแผนควบรวมอยู่ในขั้นการศึกษา
นายศุภาชัย ภัทรพิศุทธนา ประธานสหภาพแรงงานธนาคารธนชาต เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือถึง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อให้กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ช่วยพิจารณาคุ้มครองผลประโยชน์ของพนักงานของธนาคารที่ถูกควบรวม ว่า หากมีการควบรวมธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคาร TMB คาดว่าจะมีสาขาของธนาคารทั้งสองที่อยู่ใกล้เคียงกันจำเป็นต้องยุบสาขา เนื่องจากเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน ซึ่งจะส่งผลให้จำเป็นต้องลดพนักงานลงประมาณราว 4,000–5,000 คน หรือคิดเป็น 40% จากจำนวนพนักงานทั้งหมด โดยปัจจุบันธนาคารทั้งสองแห่งที่มีพนักงานธนาคารละประมาณ 10,000 คน รวมทั้งสิ้นเป็น 20,000 คน
ข่าวแนะนำ
“ที่ผ่านมาผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองธนาคารยืนยันว่า จะไม่มีการลดพนักงาน แต่ในทางปฏิบัติได้ใช้วิธีการกดดันการทำงาน โดยใช้การประเมินผลงานที่เข้มงวดมากขึ้น สร้างแรงกดดันและความวิตกต่อพนักงานที่ทำงานอยู่ในเวลานี้ ทำให้รู้สึกถึงความไม่มั่นคงในอาชีพ” นายศุภาชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นจริงๆ ในการลดพนักงานลง ทางสหภาพฯ ขอเรียกร้องให้ธนาคารจ่ายเงินชดเชยอย่างเป็นธรรม ซึ่งหากจ่ายตามเงื่อนไขตามกฎหมายแรงงานในปัจจุบัน จะทำให้พนักงานที่ถูกให้ออกดำรงชีพได้ด้วยความยากลำบาก ดังนั้นจึงเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยสูงกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนด
ขณะที่ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ซึ่งมารับหนังสือจากสหภาพ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า แผนการควบรวมทั้งสองธนาคารยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาในรายละเอียด ส่วนเรื่องของการจ้างพนักงานออกนั้น จะให้การคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ TMB ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ก.พ.นี้ว่า ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) แบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย กับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ING Group N.V., บริษัททุนธนชาต และ The Bank of Nova Scotia ธนาคารใหญ่ของประเทศแคนาดา เพื่อกำหนดกรอบความเข้าใจและหลักการสำหรับการเจรจาร่วมกันต่อไปเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมกิจการทั้งสอง
อย่างไรก็ตาม หลังการควบรวมดังกล่าว ธนาคารแห่งใหม่ จะมีสินทรัพย์แตะระดับ 2 ล้านล้านบาท จัดเป็นอันดับที่ 6 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย มีฐานลูกค้ารวมกันมากกว่า 10 ล้านราย มีส่วนแบ่งตลาดของเงินฝาก 12% และส่วนแบ่งตลาดของสินเชื่อรวม 12% จากส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5-6%.