ChatGPT อายุเกือบ 3 ขวบ คนใช้งาน 10% ของประชากรโลก วิจัยเผยคนขอคำปรึกษาเรื่องส่วนตัวกับ AI มากขึ้น

นับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT ออกมาในเดือนพฤศจิกายนปี 2022 ก็ได้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ChatGPT Moment” กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมทำให้โลกรู้จัก GenAI และทำให้แชทบอต LLM ถูกนำไปใช้งานอย่างรวดเร็วในวงกว้าง

ล่าสุด ได้มีงานวิจัยของ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (NBER) รวบรวมและศึกษาโดย OpenAI ร่วมกับ Duke University และ Harvard University เผยแพร่ผลการศึกษาว่า นับตั้งแต่เปิดตัวออกมาถึงเดือนกรกฎาคม 2025 มีผู้ใช้งานเครื่องมือของ OpenAI อย่าง ChatGPT ต่อสัปดาห์อยู่ที่ประมาณ 10% ของประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกหรือกว่า 700 ล้านคน และยังเปิดเผยอีกด้วยว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีการใช้งานทำอะไรบ้าง และเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน

โดยมีวิธีการศึกษาวิจัยผ่านการสุ่มบทสนทนาบน ChatGPT ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2024 ถึง มิถุนายน 2025 เพื่อมาจัดจำแนกหมวดหมู่ว่ามีการใช้งานแบบไหน **แต่ทางกลุ่มผู้วิจัยยืนยันว่าไม่มีการแอบอ่านข้อมูลโดยตรง เพราะได้มีการสร้างเครื่องมือที่เรียกว่า “AI Classifier” มาอ่านและจัดการข้อความนับล้านแบบอัตโนมัติ โดยที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเห็นข้อความดิบเลย**

สิ่งที่ค้นพบ

เป้าหมายหลักของงานวิจัยนี้คือ เพื่อทำความเข้าใจว่า “ใคร” กำลังใช้ ChatGPT และ “ใช้อย่างไร” ในระดับโลก โดยดูทั้งการเติบโต ลักษณะผู้ใช้ และประเภทของงานที่ใช้ทำ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

1. การเติบโตและขนาดของผู้ใช้งาน

• จำนวนผู้ใช้ในเดือนกรกฎาคม 2025 พบว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์ (Weekly Active Users) มากกว่า 700 ล้านคน 
• จำนวนผู้ใช้งานนี้คิดเป็นประมาณ 10% ของประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลก
• ผู้ใช้งานทั่วโลกรวมกันส่งข้อความมากกว่า 2,500 ล้านข้อความต่อวัน หรือประมาณ 29,000 ข้อความต่อวินาที

2. การใช้งาน: เรื่องงาน vs. เรื่องส่วนตัว

ผลกระทบทางเศรษฐกิจของ ChatGPT ครอบคลุมทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว การใช้งานของผู้บริโภคประมาณ 30% เกี่ยวข้องกับงาน และประมาณ 70% ไม่เกี่ยวกับงาน โดยทั้งสองหมวดหมู่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

• สัดส่วนการใช้งานที่ไม่เกี่ยวกับงาน (Non-work) เพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก 53% ในเดือนมิถุนายน 2024 กลายเป็น 73% ในเดือนมิถุนายน 2025 
• หากดูข้อมูลในเดือนมิถุนายน 2025 จะพบว่าในแต่ละวันมีข้อความที่ไม่เกี่ยวกับงานถึง 1,911 ล้านข้อความ เทียบกับข้อความเกี่ยวกับงาน 716 ล้านข้อความ 
• การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดจากผู้ใช้ใหม่เท่านั้น แม้แต่กลุ่มผู้ใช้ที่สมัครตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะใช้ ChatGPT ในเรื่องส่วนตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ 

3. เจาะลึกหัวข้อการใช้งานยอดนิยม

โดยทั่วไปแล้วที่ไม่แยกว่าเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว การใช้งาน ChatGPT กว่า 80% เพื่อ 3 หัวข้อนี้ คือ

• ขอคำแนะนำเชิงปฏิบัติ (Practical Guidance) ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่างเช่น ถามวิธีทำอาหาร ขอแผนออกกำลังกาย หรือแม้แต่สอนการบ้าน (คิดเป็น 28.8%)
• ค้นหาข้อมูล (Seeking Information) คล้ายกับการใช้ Google Search แต่ได้คำตอบที่สรุปมาให้แล้ว (คิดเป็น 24.4%)
• ใช้ทำงานเขียน (Writing) อย่างเช่น ให้ช่วยเขียนอีเมล, แก้ไขบทความ, แปลภาษา, สรุปเนื้อหา (คิดเป็น 23.9%)

แต่ในส่วนของการใช้ ChatGPT เพื่อการทำงาน “การเขียน” ถือเป็นกิจกรรมอันดับหนึ่ง คิดเป็น 40% ของการใช้งานทั้งหมด และที่น่าสนใจ คือ 2 ใน 3 ของการใช้งานด้านการเขียน เป็นการขอให้ AI ช่วยแก้ไข วิจารณ์ หรือสรุปข้อความ ไม่ใช่การสั่งให้เขียนใหม่ทั้งหมด

4. คนใช้ AI เพื่อ “ขอคำปรึกษา” มากกว่า “สั่งให้ทำงาน”

จากการศึกษา นักวิจัยได้แบ่งเจตนาการใช้งานในภาพรวมออกเป็น 3 แบบ ได้แก่

• Asking ถามหรือขอคำปรึกษา เพื่อหาข้อมูลมาช่วยตัดสินใจ (คิดเป็น 49%) 
• Doing สั่งให้ทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไปใช้งานต่อโดยตรง เช่น เขียนโค้ด สร้างตาราง (คิดเป็น 40%) 
• Expressing แค่แสดงออกเฉย ๆ อย่างการชวนพูดคุยทั่วไป (คิดเป็น 11%)

โดยภาพรวมแล้วการใช้งานแบบ “Asking” ได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้สูงสุด และมีแนวโน้มเติบโตเร็วกว่าแบบอื่น แต่เมื่อเป็นเรื่องงานสัดส่วนจะกลับกันอย่างชัดเจน การใช้งานแบบ “Doing” จะกลายเป็นส่วนใหญ่ที่ 56% ในขณะที่ “Asking” จะอยู่ที่ 35%

5. กลุ่มผู้ใช้งาน

• เพศ: ในช่วงแรกหลังจากเปิดตัว ผู้ใช้งานประมาณ 80% เป็นผู้ชาย (พิจารณาจากชื่อ) แต่เมื่อเวลาผ่านไป ช่องว่างนี้ลดลง จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน 2025 พบว่าผู้ใช้งานที่มีชื่อเป็นเพศหญิงมีจำนวนมากกว่าเล็กน้อย
• อายุ: กลุ่มผู้ใช้อายุ 18-25 ปี เป็นกลุ่มที่ส่งข้อความมากที่สุด คิดเป็น 46% ของข้อความทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เมื่อเกี่ยวกับเรื่องงาน กลุ่มผู้ใช้งานมักจะมีอายุสูงขึ้น โดยสูงสุดในกลุ่มอายุ 36-45 ปี (ใช้งาน 31.4%) และต่ำสุดในกลุ่ม 66 ปีขึ้นไป (ใช้งาน 16.1%)
• อาชีพ: กลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์มีสัดส่วนการใช้งานเพื่องานสูงสุดที่ 57% ในขณะที่กลุ่มอาชีพที่ไม่ใช่วิชาชีพ (เช่น งานบริการ, ธุรการ) มีสัดส่วนต่ำสุดที่ 40% และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพที่มีทักษะสูงมักจะใช้ ChatGPT ในลักษณะ “Asking” มากกว่ากลุ่มอื่น

นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา ChatGPT มีการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษในกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ภายในเดือนพฤษภาคม 2025 อัตราการเติบโตของการใช้งาน ChatGPT ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำที่สุดสูงกว่าในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูงที่สุดถึง 4 เท่า

และในส่วนความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ประเมินว่า “ดี” (Good) มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภายในเดือนกรกฎาคม 2025 มีจำนวนมากกว่า “แย่” (Bad) ถึง 4 เท่า และการใช้งานแบบ “Asking” มีแนวโน้มที่จะได้รับการประเมินว่า “ดี” สูงกว่าการใช้งานแบบ “Doing” อย่างมีนัยสำคัญ

ที่มา: OpenAI [1][2]

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney