Tesla Q2/25 อ่วม รถขายไม่ออก ผลงานแย่ 2 ไตรมาสติด จากแรงกระแทกภาษี Musk เตือนยังลำบากอีกหลายไตรมาส

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

Tesla Q2/25 อ่วม รถขายไม่ออก ผลงานแย่ 2 ไตรมาสติด จากแรงกระแทกภาษี Musk เตือนยังลำบากอีกหลายไตรมาส

Date Time: 24 ก.ค. 2568 11:38 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

Tesla เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2568 พบรายได้กลุ่มยานยนต์ร่วงลง 16% กำไรหด ชี้เป็นผลกระทบจากต้นทุนภาษีที่สูงขึ้น และรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เตรียมยกเลิกมาตรการลดหย่อนภาษีรถ EV จึงมีแผนหันไปเดิมพันกับรถรุ่นประหยัดที่ออกแบบมาในราคาที่ถูกลง Robotaxi แท็กซี่ไร้คนขับ และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Optimus

Latest


Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่า รายได้กลุ่มยานยนต์ร่วงลง 16% ถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง และยังคงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นร่วงทันทีหลังปิดตลาด โดยมีตัวเลขรายได้รวมอยู่ที่ 22,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 22,740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หลังการประกาศผลประกอบการ หุ้นของ Tesla ร่วงลงกว่า 4% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังจากความเห็นของ Elon Musk ซีอีโอ และ Vaibhav Taneja ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน เกี่ยวกับต้นทุนภาษีที่สูงขึ้น และการสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลกลาง

“เราอาจจะต้องเจอกับความยากลำบากใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ผมไม่ได้ยืนยันนะว่ามันจะเกิดขึ้น แต่มันอาจจะเกิดขึ้นก็ได้” Elon Musk กล่าว

รายได้จากธุรกิจยานยนต์ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 19,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้รายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต (Regulatory Credits) ลดลงเหลือ 439 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 890 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Tesla ได้รายงานยอดส่งมอบรถยนต์ที่ 384,000 คัน ลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขนี้เป็นมาตรวัดที่ใกล้เคียงที่สุดกับยอดขายจริงที่บริษัทเปิดเผย


ผลกระทบจากการเมืองและนโยบายรัฐ

ภาวะซบเซาของ Tesla ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสต่อต้านในสหรัฐอเมริกา และยุโรป หลังจากที่ Elon Musk ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อช่วยให้ Donald Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ตลอดจนการที่ Elon Musk ได้ไปร่วมงานกับรัฐบาลเพื่อลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลาง ยกเลิกกฎระเบียบต่าง ๆ และยุบหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID)

หุ้น Tesla ทรงตัวในการซื้อขายนอกเวลาทำการจนกระทั่งการแถลงผลประกอบการ แต่เริ่มดิ่งลงหลังจาก Vaibhav Taneja กล่าวว่าร่างกฎหมาย “Big Beautiful Bill” ที่ผ่านสภาคองเกรสเมื่อเร็ว ๆ นี้ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Tesla โดยจะยุติมาตรการลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐลงในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้

อย่างไรก็ตาม หุ้นของ Tesla ปรับตัวลดลงมาแล้วราว 18% ในปีนี้ ถือเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นแล้วประมาณ 9% ในปี 2568

นอกจากนี้ Tesla ยังต้องปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนเพื่อรับมือกับนโยบายภาษีของทรัมป์ Vaibhav Taneja กล่าวว่า “จากการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหัน ทำให้เรามีซัพพลายรถยนต์ในสหรัฐฯ อย่างจำกัดในไตรมาสนี้ เราอาจไม่สามารถรับประกันการส่งมอบตามคำสั่งซื้อที่เข้ามาในช่วงปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปได้”

สำหรับกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ลดลงเหลือ 1,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากปีก่อนหน้า


เดิมพันอนาคตกับรถรุ่นประหยัด Robotaxi และหุ่น Optimus

ในเอกสารสำหรับผู้ถือหุ้น Tesla ระบุว่า บริษัทได้เริ่มการผลิตรถล็อตแรกที่เรียกว่าเป็นรถยนต์รุ่นราคาประหยัดไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน โดยมีแผนจะผลิตในปริมาณที่มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งเป็นการเดินหน้าหลังจากเลื่อนแผนผลิต Model 2 มาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน Elon Musk ก็พยายามเบนความสนใจของนักลงทุนและแฟนคลับไปยังอนาคตของบริษัทที่เขาเชื่อว่าจะถูกขับเคลื่อนด้วย Robotaxi หรือแท็กซี่ไร้คนขับ และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Optimus โดยอ้างว่า Robotaxi จะสามารถทำเงินให้เจ้าของได้แม้ในขณะที่พวกเขานอนหลับ ส่วนหุ่นยนต์ Optimus จะมีความสามารถสูงพอที่จะทำงานในโรงงานหรือเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้

เมื่อเดือนมิถุนายน Tesla ได้เริ่มทดสอบบริการ Robotaxi ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ไปแล้วในพื้นที่จำกัดและยังมีพนักงานนั่งไปด้วย อย่างไรก็ตามบริการนี้ยังจำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น

ในเรื่องของ Robotaxi ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า Tesla ยังคงตามหลังคู่แข่งอย่าง Waymo ของ Alphabet ซึ่งเปิดให้บริการแล้วในหลายเมืองของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ Elon Musk ก็ได้กล่าวเน้นย้ำว่า “เป้าหมายของ Tesla คือการให้บริการเรียกรถยนต์ไร้คนขับแก่ประชากรราวครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบด้วยเช่นกัน”


ธุรกิจอื่นยังโต

ในส่วนของธุรกิจบริการและอื่น ๆ ของ Tesla ซึ่งรวมถึงรายได้จากสถานีชาร์จ EV กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากกำไรของสถานี Supercharger ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้งาน โดยบริษัทได้ติดตั้งหัวชาร์จ Supercharger ใหม่กว่า 2,900 จุด หรือเพิ่มขึ้น 18% ทำให้ปัจจุบันมีสถานีชาร์จในเครือข่ายรวม 7,377 แห่ง

ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) ของ Tesla ปัจจุบันมีมูลค่าที่ 1,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 722 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า


ที่มา: CNBC


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ