ธุรกิจฝากสเปิร์มโตแสนล้าน โมเดลธุรกิจสตาร์ทอัพอเมริกา เก็บ-ตรวจ-ส่งแช่ได้เอง ไม่ต้องไปคลินิก

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ธุรกิจฝากสเปิร์มโตแสนล้าน โมเดลธุรกิจสตาร์ทอัพอเมริกา เก็บ-ตรวจ-ส่งแช่ได้เอง ไม่ต้องไปคลินิก

Date Time: 16 ก.ค. 2568 19:02 น.

Video

อธิบายทีเดียวว่า ทำไมฟองสบู่ AI จะไม่แตกซ้ำรอยดอทคอม? | Digital Frontiers EP.51

Summary

ทุกวันนี้เมื่อผู้ชายเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพในการมีบุตรมากขึ้น ส่งผลให้โมเดลธุรกิจ “เก็บ ตรวจ และส่งสเปิร์มด้วยตัวเอง” เพื่อฝากแช่แข็งเติบโตขึ้น จนตลาดนี้มีมูลค่าสูงกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ธุรกิจกลุ่มนี้ยังออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพที่สูงขึ้น และลดขั้นตอนยาก ๆ ต่าง ๆ ลง

Latest


ธนาคารอสุจิ (Sperm Bank) ที่มีไว้เพื่อเก็บรักษาและแช่แข็งน้ำอสุจิหรือสเปิร์มของคุณผู้ชาย แม้ธุรกิจนี้จะมีมาช้านาน โดยธนาคารอสุจิแห่งแรกเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและในญี่ปุ่นเมื่อปี 1964 หลังจากการแช่แข็งสเปิร์มประสบความสำเร็จ โดยมีผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ในปี 1953 จากสเปิร์มที่รักษามาตั้งแต่ปี 1949

ที่ผ่านมา ข้อจำกัดของการฝากแช่แข็งอสุจิส่วนใหญ่คือเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่แค่ค่าฝาก แต่เป็นเรื่องของการเดินทางไปคลินิกอยู่หลายครั้ง และก็มีหลายครั้งที่คุณผู้ชายจะรู้สึกเคอะเขินหรืออึดอัดในช่วงก่อนที่จะฝากแช่สเปิร์ม

จึงเป็นที่มาของโมเดลธุรกิจของ Legacy สตาร์ทอัพเจ้าใหญ่ของสหรัฐอเมริกาที่กำลังเติบโตในตลาดของผู้ชายที่กำลังตกสู่สภาวะมีบุตรยาก ซึ่งตลาดนี้มีการประมาณไว้คร่าว ๆ ว่ามีมูลค่าที่ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 130,000 ล้านบาท) ต่อปีเลยทีเดียว

ปัจจุบัน Legacy มีบริษัทตั้งอยู่ที่มหานครนิวยอร์ก มีลูกค้ากว่า 40,000 รายทั่วสหรัฐอเมริกา พร้อมกับมีการสนับสนุนจากนักลงทุนรายเล็ก รายใหญ่ และเซเลบริตี้รวมกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระบวนการฝากแช่แข็งสเปิร์มกับ Legacy ทาง Khaled Kteily ผู้ก่อตั้งบริษัทแม่ Give Legacy กล่าวว่า “แค่คุณมีสมาร์ทโฟนกับเวลาแค่ 5 นาที” ก็สามารถจะฝากสเปิร์มได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน โดย Legacy จะส่งชุดเครื่องมือสำหรับเก็บสเปิร์มให้ที่ผ่านบริการขนส่งตรงถึงหน้าบ้านลูกค้า จะเป็นชุด Do-It-Yourself ประกอบไปด้วยกระปุกสำหรับเก็บน้ำอสุจิ ขวดที่มาพร้อมสารคงสภาพ กระเป๋ารักษาอุณหภูมิพร้อมตัวล็อกแน่นหนาสำหรับใช้ส่งกลับ

หลังจากส่งสเปิร์มกลับไปให้ที่ Legacy แล้ว ทางบริษัทจะทำการวิเคราะห์และส่งผลการวินิจฉัยให้ทางลูกค้าภายใน 48 ชั่วโมงผ่านทางแอปพลิเคชันของตัวเอง เมื่อทราบผลแล้วลูกค้าสามารถเลือกต่อได้ว่าจะฝากแช่สเปิร์มที่ส่งไปหรือไม่ ถ้าฝากไว้ก็จะมีระยะเวลาที่เลือกได้ตั้งแต่ 1 ปีถึงสูงสุด 25 ปี

กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาไม่กี่วันในการส่งชุดตรวจและชุดเก็บน้ำอสุจิไปกลับ โดยลูกค้าของ Legacy สามารถเลือกระดับราคาที่ต้องการจะจ่ายได้ โดยจะมีตั้งแต่ 440 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,000 บาท) สำหรับการเก็บ 1 ตัวอย่างและสามารถฝากได้ 1 ปี ไปจนถึงชุดละ 3,995 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 130,000 บาท) สำหรับเก็บ 3 ตัวอย่างและฝากได้ยาวถึง 25 ปี หรือตกปีละเกือบ 160 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,200 บาท) ซึ่งราคานี้เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการเข้าตรวจและฝากกับคลินิกแบบดั้งเดิม

สำหรับในประเทศไทย ค่าฝากแช่แข็งอสุจิกับโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศเริ่มต้นที่ 10,000 บาท รวมขั้นตอนการตรวจ การเก็บ และการฝากแช่ในปีแรก แต่ราคาหลังจากนี้ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบัน

ในฝั่งยุโรปก็มีบริษัทชื่อว่า ExSeed Health ตั้งอยู่ในเดนมาร์ก ที่มีโมเดลธุรกิจแบบเดียวกับ Legacy คือจะส่งชุดตรวจและชุดเก็บอสุจิไปให้ลูกค้าทั่วยุโรป แต่จะต่างตรงที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบสเปิร์มของตัวเองได้เลย และดูผลได้ผ่านสมาร์ทโฟนทันที

มีรายงานการวิจัยจาก Oxford เมื่อปี 2017 ออกมาว่า ปริมาณสเปิร์มเฉลี่ยของผู้ชายทั่วโลกลดลงกึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ 40 ปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า ผู้ชายไม่ค่อยคำนึงถึงสุขภาพตัวเองที่พร้อมสำหรับการมีลูก จึงคาดว่าเป็นที่มาของปัญหาดังกล่าวไปทั่วโลก และยังรวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งการอดอาหารไปจนถึงเรื่องความเครียด ก็อาจจะเป็นปัจจัยได้เช่นกัน

ซึ่งสตาร์ทอัพเหล่านี้ออกแบบธุรกิจมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ชายที่กังวลกับการมีลูก อายุมากขึ้น สเปิร์มลดลง ผู้ป่วยที่กำลังรับมือกับโรคร้ายแรง ตลอดจนทหารหรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย (ซึ่งทาง Legacy ได้เปิดให้ทหารสหรัฐฯ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่สามารถทดลองใช้งานฟรีได้) นอกจากนี้ ฝั่งธุรกิจประกันเองก็มีแผนที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในบริการนี้ด้วย

ในอดีตการจะเก็บสเปิร์มนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากสเปิร์มจำเป็นจะต้องได้รับการประเมินทางการแพทย์ทันทีภายในไม่ถึงชั่วโมง จนในปี 2018 เกิดสตาร์ทอัพชื่อว่า Fellow ขึ้นมา โดยจะมีการปั่นจักรยานออกไปเพื่อเก็บตัวอย่างสเปิร์มและขนกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ในปัจจุบัน ได้มีการคิดค้นสารคงสภาพน้ำอสุจิที่จะมาช่วยจัดการกับแบคทีเรียต่าง ๆ ก่อนที่จะใส่กล่องเพื่อส่งผ่านบริการขนส่งกลับมา

สำหรับสารที่ช่วยคงสภาพของน้ำอสุจิจะรู้จักกันว่าเป็น Buffer Medium ที่จะช่วยคงสภาพความเป็นกรดด่างของสเปิร์มในระหว่างขนส่ง ให้ลองนึกภาพของอ่างน้ำที่มีสารนี้ไหลวนอยู่เพื่อปกป้องสเปิร์มไม่ให้ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ช่วยให้สเปิร์มยังมีชีวิตเพื่อที่จะมาแช่แข็งเมื่อถึงปลายทาง โดยสารของ Fellow สามารถรักษาสเปิร์มไว้ได้ยาวนานถึง 52 ชั่วโมง ในขณะที่ฝั่ง Legacy บอกว่าสารของบริษัททำให้สูญเสียสเปิร์มเพียง 0.4% ต่อชั่วโมงเท่านั้น

ในการแช่แข็งสเปิร์มจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิลดลงเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้อสุจิเกิดความเครียด อุณหภูมิจะลดไปต่ำสุดที่ราว -196 องศาเซลเซียส อสุจิก็จะถูกแช่ไว้เป็นก้อนแข็ง ซึ่งก่อนที่จะเข้าเครื่องแช่แข็งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจะมีการใส่สารพิเศษลงไปเพื่อดึงน้ำออกจากเซลล์และจะเป็นการช่วยไม่ให้เกิดความเสียหาย

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ การหันมาให้ความสนใจกับสุขภาพด้านนี้ และความกังวลในภาวะมีบุตรยากของผู้ชาย ทำให้วงการแพทย์เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น แม้ว่ายังต้องอาศัยการสนับสนุนอีกหลายด้าน ตลอดจนเพิ่มตัวเลือกทางการแพทย์ให้มากกว่านี้ก็ตาม


ที่มา: Bloomberg, PMC, Legacy


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ