
Samsung Electronics Co. บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ รายงานผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาส 2 ปี 2025 พบกำไรดิ่งลงครั้งแรกในรอบเกือบสองปีนับจากปี 2023 เหตุจากมาตรการควบคุมของสหรัฐฯ ที่กระทบการส่งออกชิป AI ไปยังจีน และปัญหาการขายชิปหน่วยความจำรุ่นล้ำสมัยให้กับ Nvidia
โดยกำไรจากการดำเนินงานเบื้องต้นอยู่ที่ 4.6 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงประมาณ 56% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เฉลี่ยลดลงเพียง 41% ในขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 74 ล้านล้านวอน (ประมาณ 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
Samsung ชี้ว่า ต้นทุนสินค้าคงคลังที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวมีส่วนทำให้กำไรลดลง ในขณะที่กระบวนการประเมินคุณภาพและการจัดส่งชิปหน่วยความจำรุ่นใหม่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจรับผลิตชิป (Foundry) ที่เคยขาดทุน คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากความต้องการที่เริ่มกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ Samsung จะเปิดเผยรายงานผลประกอบการฉบับเต็ม ซึ่งรวมถึงตัวเลขกำไรสุทธิ และข้อมูลผลแยกตามธุรกิจในช่วงปลายเดือนนี้
Samsung ยังคงเผชิญความยากลำบากในการเรียกความได้เปรียบกลับคืนในตลาดชิป HBM (High-Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการ์ดประมวลผล AI ของ Nvidia โดยเฉพาะรุ่น HBM3E แบบ 12 เลเยอร์ ที่ยังไม่ได้รับการรับรองจาก Nvidia ทำให้บริษัทเสียโอกาสให้คู่แข่งอย่าง SK Hynix Inc. ที่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้เร็วกว่ากำหนด
ขณะเดียวกันคู่แข่งจากสหรัฐฯ อย่าง Micron Technology Inc. ก็กำลังเร่งสปีดขึ้นมาแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้เช่นกัน
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธุรกิจชิปของ Samsung จะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.7 ล้านล้านวอน ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจาก 1.1 ล้านล้านวอนในไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็ยังห่างไกลจาก 6.5 ล้านล้านวอน ที่เคยทำได้ในปีที่แล้ว
โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Samsung เคยส่งสัญญาณเชิงบวก โดยระบุว่าได้จัดส่งตัวอย่าง HBM3E รุ่นปรับปรุงให้ลูกค้าหลักแล้ว และคาดว่าไลน์ผลิตภัณฑ์นี้จะเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 2 พร้อมกับแผนเริ่มผลิต HBM4 ในระดับอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง
Samsung พยายามไล่ตาม SK Hynix ที่ชิงเปิดตัวตัวอย่าง HBM4 แบบ 12 เลเยอร์ เป็นรายแรกของโลกก่อนกำหนด และยังถูก Micron แซงหน้าต่ออีกในเดือนมิถุนายน ขณะที่ Samsung เองยังต้องกลับไปแก้ไขดีไซน์ของ HBM3E แบบ 12 เลเยอร์ใหม่
ถึงแม้ว่า Samsung จะได้รับคำสั่งซื้อจาก Advanced Micro Devices Inc. หรือ AMD ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่เหมือนกับ Micron แต่กลับพลาดโอกาสที่จะได้รับการรับรองชิป HBM3E จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดการ์ดประมวลผล AI จนกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ Samsung แย่งส่วนแบ่งตลาดได้ช้า
ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Samsung ให้คำมั่นว่าจะกลับมาเร่งความแข็งแกร่งในตลาด HBM ภายในปีนี้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนหลังจากโดนตั้งคำถามเรื่องผลงานในตลาด AI
จุน ยอง-ฮยอน หัวหน้าฝ่ายธุรกิจชิปของ Samsung ยอมรับว่า ความล่าช้าในการคว้าโอกาสในตลาด HBM เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทตามหลัง SK Hynix และยืนยันว่าจะไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำในยุค HBM4 ซึ่งคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสถาปัตยกรรม GPU รุ่น Rubin ของ Nvidia รุ่นถัดไป
ด้านนักวิเคราะห์จาก Daishin Securities เขียนในรายงานว่า “แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าเมื่อไหร่จะได้ใบรับรองคุณภาพอย่างเป็นทางการ แต่ไม่มีสัญญาณว่า Samsung จะเปลี่ยนกลยุทธ์ และคาดว่าบริษัทน่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตลาดได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2025”
ส่วนทีมนักวิเคราะห์จาก Bernstein ที่เคยประเมินว่า Samsung จะได้รับการรับรอง HBM3E จาก Nvidia ภายในไตรมาส 2 ได้ปรับคาดการณ์ใหม่ โดยคาดว่าน่าจะได้ใบรับรองจริงในไตรมาส 3 แทน
“Samsung จะค่อย ๆ ไล่ช่องว่างกับคู่แข่งให้แคบลง” จากรายงานที่เขียนไว้ในวันที่ 23 มิถุนายน “และคาดว่า SK Hynix จะยังคงเป็นผู้นำตลาดในปี 2027 แต่ความได้เปรียบจะค่อย ๆ ลดลง ทำให้ส่วนแบ่งตลาดระหว่างผู้ผลิตรายต่าง ๆ ใกล้เคียงกันมากขึ้นกว่าปัจจุบัน”
Bernstein คาดว่าในปี 2025 SK Hynix จะครองส่วนแบ่งตลาด HBM ราว 57% ตามด้วย Samsung ที่ 27% และ Micron ที่ 16%
ที่มา: Bloomberg
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney