
ขณะที่ธุรกิจไทยกำลังพยายามปรับตัวสู่การใช้ AI ระลอกแรก Jensen Huang CEO ของ NVIDIA ได้ประกาศก้าวต่อไปที่จะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉมด้วยการเปิดตัว 'AI Factory' พร้อมชิป Blackwell ที่งาน GTC Paris 2025 โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลให้องค์กรธุรกิจไทยที่ไม่ปรับตัวต้องเผชิญความเสี่ยงสูงที่จะถูกทิ้งห่างในการแข่งขัน เมื่อประสิทธิภาพของ AI เพิ่มขึ้นถึง 40 เท่าในเวลาอันสั้น
Jensen Huang CEO และผู้ก่อตั้ง NVIDIA ได้นำเสนอแนวคิดปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่เรียกว่า "AI Factory" หรือโรงงาน AI ซึ่งแตกต่างจาก Data Center แบบเดิมโดยสิ้นเชิง โดยศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูล แต่เพื่อผลิต "Smart Token" ที่ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของ AI ที่สามารถแปลงข้อมูลให้กลายเป็นข้อมูลอัจฉริยะที่ใช้ประโยชน์ได้จริง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้
การสร้าง Token จำนวนมหาศาลจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และทำให้ AI Factory กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในยุโรปและทั่วโลก
หัวใจสำคัญของ AI Factory คือ ชิป Grace Blackwell (GB200) ที่ Jensen Huang เปรียบเทียบว่าเป็น "เครื่องจักรแห่งการคิด (Thinking Machine)" โดยออกแบบมาเพื่อการให้เหตุผล (Reasoning) และการวางแผน (Planning) ที่สำคัญชิป Blackwell ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดจากรุ่น Hopper แต่ยังสามารถประมวลผลได้เร็วกว่าถึง 30-40 เท่าในบางงาน
ข้อมูลทางเทคนิคชิป Grace Blackwell (GB200) พลังที่เหนือจินตนาการ
การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพถึง 30-40 เท่าในเวลาเพียงไม่กี่ปี หมายความว่าธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะสามารถประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจได้เร็วกว่าคู่แข่งอย่างมหาศาล เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างชัดเจน
NVIDIA ยังชี้ให้เห็นวิวัฒนาการของ AI ที่ตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่ยุค "Agentic AI" ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถดำเนินการอย่างอิสระ ตั้งแต่วิเคราะห์สถานการณ์ วางแผน และปรับตัวตามสถานการณ์ได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่แตกต่างจาก Generative AI ที่เพียงแค่ตอบสนองต่อคำสั่งเท่านั้น
วิวัฒนาการของ AI แบ่งเป็น 3 ยุค
กรณีศึกษาที่น่าสนใจ การใช้ Agentic AI วางแผนเปิดร้าน Food Truck ในปารีส โดยมี AI ทำหน้าที่เสมือนเอเจนต์ย่อย ๆ หลายบทบาท เช่น นักวิจัยตลาด นักออกแบบแนวคิด นักวางแผนทางการเงิน และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดทำงานร่วมกัน โดยการประมวลผลของ Agentic AI ต้องการพลังคำนวณมากกว่า Generative AI ถึง 10,000 เท่า นี่คือเหตุผลที่ชิป Blackwell อันทรงพลังถึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับธุรกิจไทย Agentic AI จะช่วยลดภาระงานวิเคราะห์ที่ซับซ้อน ทำให้ผู้บริหารได้ข้อมูลสำหรับตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้ทันท่วงทีในสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
NVIDIA ยังคงผลักดันแนวคิด Digital Twin ที่ทำให้ทุกสิ่งทางกายภาพถูกสร้างและทดสอบในรูปแบบดิจิทัลก่อนนำไปใช้จริง ด้วยการยกตัวอย่างแพลตฟอร์ม Omniverse ของ NVIDIA ทำให้การสร้างและจำลอง Digital Twin เป็นจริงได้ ช่วยให้องค์กรออกแบบ วางแผน และเพิ่มประสิทธิภาพในโลกดิจิทัลก่อนลงทุนในโลกจริง
ตัวอย่าง Digital Twin ที่เห็นผลชัดเจน
ปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง BMW, Mercedes-Benz และ Toyota ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน นอกจากนี้ Digital Twin ยังสำคัญอย่างยิ่งในการฝึกอบรมหุ่นยนต์ โดย Grek หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ตัวอย่างที่แสดงในงาน GTC Paris 2025 ได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวและการปฏิสัมพันธ์ในโลกเสมือนจริงของ Omniverse ก่อนที่จะถูกนำมาใช้ในโลกจริง ทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยและพัฒนาได้รวดเร็ว
NVIDIA เปิดเผยแนวคิด "Sovereign AI" หรือ "AI อธิปไตย" ซึ่งหมายถึงการที่แต่ละประเทศจะพัฒนาและควบคุม AI เป็นของตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่น
แล้วทำไมประเทศต้องมี AI เป็นของตัวเอง? เปรียบเหมือนสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างไฟฟ้า น้ำ และอินเทอร์เน็ต ที่แต่ละประเทศต้องมีเป็นของตัวเอง AI ในอนาคตจะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเช่นกัน การพึ่งพาประเทศอื่นอาจเกิดปัญหาด้านความมั่นคง ความปลอดภัยของข้อมูล และความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน 6 ประเทศยุโรปได้ร่วมโครงการ Sovereign AI แล้ว ได้แก่
ผลกระทบต่อไทย เมื่อยุโรปมี AI infrastructure เป็นของตัวเอง ประเทศไทยจะต้องตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ว่าจะร่วมมือกับระบบ AI ของประเทศหรือกลุ่มประเทศใด หรือจะพัฒนา AI ecosystem เป็นของตัวเองเพื่อรักษาอธิปไตยทางเทคโนโลยี หากไม่วางแผนรับมือตั้งแต่วันนี้ ไทยอาจเผชิญความท้าทายในการแข่งขันกับประเทศที่มี AI infrastructure ที่แข็งแกร่งในอนาคต
NVIDIA เปิดเผยแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในยุโรป โดยคาดการณ์ว่ากำลังการประมวลผล AI จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การลงทุนดังกล่าวส่งสัญญาณชัดเจนว่า AI จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญระดับประเทศ
สำหรับไทย สถานการณ์ปัจจุบันมีเพียง 2% ของโรงงานไทยเท่านั้นที่ใช้เทคโนโลยี Industry 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ แม้ 73% ขององค์กรไทยวางแผนจะนำ AI มาใช้ แต่ 65% ยังเผชิญปัญหาด้านคุณภาพข้อมูล การเตรียมความพร้อมจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร การลงทุนในเทคโนโลยี และการสร้างระบบนิเวศ AI ที่เข้มแข็ง
การเตรียมพร้อมเกี่ยวกับ AI ที่จำเป็นของไทย
บทสรุป การเตรียมพร้อมสู่อนาคต AI การประกาศของ NVIDIA ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการประกาศจุดเริ่มต้นของการแข่งขันรูปแบบใหม่ในโลกธุรกิจ องค์กรที่ไม่ปรับตัวทันท่วงทีอาจพบว่าตัวเองล้าหลังจนไม่อาจตามทัน
ธุรกิจไทยที่ต้องการความอยู่รอดและเติบโตในยุค AI จำเป็นต้องเริ่มวางแผนและลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ตั้งแต่วันนี้ เพราะ "การปฏิวัติครั้งนี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด และผลกระทบจะมากกว่าที่คาดการณ์"
กำลังการประมวลผล AI คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10 เท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผู้ที่ไม่เตรียมพร้อมวันนี้ อาจพบว่าตนเองตกขบวนในอนาคตอันใกล้นี้
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -