ทำไมทุกสายตาจับจ้องที่ “Scale AI” สตาร์ทอัพหน้าใหม่ของมหาเศรษฐีวัย 28 ปี ที่ Meta เพิ่งดึงตัวมาร่วมทัพ ดีลที่อาจพลิกโฉมภูมิทัศน์การแข่งขัน AI ระดับโลก นี่คือเชฟผู้เตรียมอาหารชั้นยอดให้กับบริษัท AI ชั้นนำ ม้ามืดของวงการปัญญาประดิษฐ์ที่ OpenAI, Microsoft, Amazon หรือแม้แต่กองทัพสหรัฐฯ ยังเป็นลูกค้า
กลายเป็นอีกดีลของวงการ AI ที่โลกจับตามอง เมื่อ Meta ปิดดีลลงทุนมูลค่า 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 4.6 แสนล้านบาทในสตาร์ทอัพด้าน AI มาแรงอย่าง “Scale AI” พร้อมดึง “Alexandr Wang” ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเจ้าของฉายาว่าที่ Elon Musk 2 มาร่วมทีมพัฒนา AI ของ Meta หลังปรับโครงสร้างทีมใหม่ยกแผงไปล่าสุด
ดีลนี้ดันให้มูลค่าของ Scale AI เพิ่มขึ้นแตะ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 9.4 ล้านล้านบาท ในไม่ถึงสัปดาห์ ตามข้อตกลงดังกล่าว Meta จะเข้าถือหุ้น 49% ใน Scale AI โดยเป็นหุ้นแบบไม่มีสิทธิ์ออกเสียง เพื่อลดความเสี่ยงจากการกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐตามที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันที่ Alexandr Wang จะเข้ารับตำแหน่ง Chief of Superintelligence ของ Meta ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่สามารถทำงานได้เทียบเท่ามนุษย์หรือที่รู้จักกันในชื่อ Artificial General Intelligence (AGI) ขณะเดียวกัน Wang จะยังดำรงตำแหน่งในบอร์ดบริหารของ Scale AI โดยให้ Jason Droege หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของบริษัทรับช่วงต่อชั่วคราว
Alexandr Wang หลายคนรู้จักเขาในฐานะลูกชายนักฟิสิกส์ผู้อพยพจากจีน ชายหนุ่มที่เรียน MIT ได้หนึ่งปี แต่ลาออกกลางคันเพื่อมาเริ่มต้นธุรกิจ เขาผู้นี้เคยฝึกงานที่ Quora และ Hudson River Trading ก่อนจะเริ่มก่อตั้ง Scale AI ในวัย 19 ปี ร่วมกับ Lucy Guo เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ในปี 2016 ผ่านโปรแกรม Y Combinator
อ่านเพิ่มเติม วิธีคิดเรื่องเงินของ Lucy Guo ผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีหญิงอายุน้อย รวยที่สุดในโลก
เรื่องราววัยเด็กของอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์และการเขียนโปรแกรม จากการเข้ารอบการแข่งขันคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ระดับชาติของสหรัฐฯ และเอเนอร์จี้ของสองผู้ก่อตั้งสาย Self-Made ยิ่งทำให้เรื่องราวของ Alexandr Wang และ Scale AI น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน จนถูกขนานนามว่า เขาอาจเจริญรอยตาม Elon Musk เลยทีเดียว
Scale AI คือใคร....
Scale AI โด่งดังจากการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างวงจรการผลิตโมเดล AI ในปัจจุบัน นั่นก็คือ บริการ "การติดป้ายข้อมูล" (Data Labeling) การสร้างชุดข้อมูลคุณภาพสูงเพื่อเทรนและประเมินคุณภาพของโมเดล AI โดยเฉพาะ LLMs และ Multimodal เช่น ChatGPT
จุดแข็งหลักของ Scale AI คือ ระบบจัดการข้อมูลที่สามารถรองรับโครงการขนาดใหญ่ (Scalable Data Infrastructure) จากลูกค้าบิ๊กเทคและภาครัฐ แถมยังมีระบบ API และ tooling ที่ทันสมัย ใช้งานง่าย ทำให้ Scale AI มีสัญญาร่วมกับพันธมิตรแนวหน้าทั่วโลกที่ทำให้บริษัทได้รับทั้งรายได้และอิทธิพลต่ออุตสาหกรรม
พูดง่ายๆ ก็คือ Scale AI ทำหน้าที่ทำความสะอาด จัดแจง “ข้อมูล” ก่อนที่จะส่งต่อให้กับบริษัทที่ต้องการใช้ข้อมูล โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น รถยนต์ไร้คนขับ การแพทย์ ด้านความมั่นคง และผู้พัฒนาโมเดล AI ชั้นนำ
โมเดล AI ชื่อดังหลายตัวที่เราใช้ในปัจจุบัน เก่งกาจได้ก็เพราะข้อมูลชั้นดีเหล่านี้ที่เปรียบเหมือนอาหารหลักของ AI นั่นเอง OpenAI, Meta, Microsoft, Google, Amazon บริษัทและสตาร์ทอัพ AI ทั่วโลก ตลอดจนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และกองทัพ เป็นลูกค้าของ Scale AI กันทั้งนั้น
Scale AI กลายเป็นยูนิคอร์นในปี 2019 ด้วยมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับการลงทุนจาก Founders Fund ต่อมาในปี 2024 ระดมทุนเพิ่มกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก Amazon และ Meta ล่าสุด โดยมีการคาดการณ์รายได้ของ Scale AI ในปี 2025 ที่จะเติบโตถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากราว 870 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 จากดีมานด์ AI ที่พุ่งไม่หยุดในช่วงที่ผ่านมา
ความสำเร็จของ Scale AI ทำให้ Alexandr Wang กลายเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองได้ด้วยตัวเองที่อายุน้อยที่สุดในโลกในปี 2021 ขณะที่มีอายุเพียง 25 ปี โดยปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิราว 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Lucy Guo กลายเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก
อย่างที่กล่าวไปว่า Scale AI คือ แหล่งข้อมูลอันดับต้น ๆ ของวงการ AI แน่นอนว่าความกังวลแรกที่พูดถึง คือ การที่ Meta เข้าไปถือหุ้นทำให้มีสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรข้อมูลระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และเกิดคำถามว่า Scale AI จะยังให้บริการข้อมูลอย่างเท่าเทียมกับบริษัทอื่นหรือไม่
การได้ Alexandr Wang มาร่วมงานช่วยเสริมจุดแข็งของ Meta ตามวิสัยทัศน์ของ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ที่หันมาให้ความสำคัญสูงสุดกับ AI ในปีนี้ ซึ่งได้อัดงบลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงสร้างพื้นฐาน AI พร้อมเดินหน้าจ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมจำนวนมาก
นอกจากนี้ดีลกับ Scale AI แสดงให้เห็นว่า Meta ใช้แนวทางแบบเดียวกับ Amazon, Microsoft และ Google ที่เคยจับมือกับสตาร์ทอัพ AI ชั้นนำเพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาการผูกขาดจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ เช่นเดียวกับที่ Meta กำลังเผชิญอยู่ในศาลสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามจุดต่างของ Scale AI คือ บริษัทไม่ได้มุ่งพัฒนาโมเดล LLMs เหมือน OpenAI หรือ Anthropic แต่เน้นให้บริการ “ข้อมูลสำหรับเทรนโมเดล AI” แก่บริษัทต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
ความร่วมมือครั้งนี้อาจเปิดทางให้ Meta ก้าวทัน Google และ OpenAI ในการแข่งขันด้าน AI และขยายบทบาทในเทคโนโลยีกลาโหมของสหรัฐฯ เนื่องจาก Wang วัย 28 ปี เป็นนักสร้างเครือข่ายมือฉมังที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักการเมืองในวอชิงตัน ผ่านการล็อบบี้หลายปี
Alexandr Wang ได้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็น “ผู้มองหาโอกาสที่เฉลียวฉลาด” นับตั้งแต่เริ่มต้น Scale AI เขาสามารถเข้าไปอยู่ในเครือข่ายผู้มีอำนาจในซิลิคอนวัลเลย์ ด้วยทักษะการสร้างคอนเนกชันที่นำพาโชคและทุนสนับสนุนเข้าสู่บริษัทและยังมีความสามารถในการพา Scale AI ไปสู่แหล่งรายได้ใหม่เสมอ กระทั่งปัจจุบันที่บริษัทเข้ามาอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของอุตสาหกรรม
อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg , Business Insider , New York Times , Fast Company
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -