หลังจากที่มูลค่าของ Scale AI สตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้าน Data ขึ้นแตะ 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ Lucy Guo ผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI วัย 30 ปี ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีหญิงอายุน้อยที่รวยที่สุดในโลก แทนที่ Taylor Swift เป็นที่เรียบร้อย แต่ที่น่าสนใจคือแนวคิดการเงินและการใช้ชีวิตของเธอที่ว่า “ฉันใช้ชีวิตเหมือนคนจน จะได้รวยยั่งยืน” (Act broke, Stay rich)
เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น อย่าง Scale AI ได้ปรากฏขึ้นมาในหน้าสื่ออย่างต่อเนื่อง จากดีลที่ Meta เข้ามาลงทุนกว่า 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อถือหุ้น 49% ในธุรกิจ โดย Scale AI มีธุรกิจหลักคือการจัดการข้อมูล (Data Labeling) ที่ใช้สำหรับฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ (Large Language Models) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา Generative AI ในปัจจุบัน
โดยดีลที่ทำกับ Scale AI ในครั้งนี้ ทาง Meta ยังได้ดึงตัว Alexandr Wang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอวัย 28 ปีไปร่วมงานด้วย อีกทั้งยังดันให้มูลค่าของ Scale AI ไปแตะที่ 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทันที
นอกจากนี้ มูลค่าล่าสุดนี้ส่งผลให้ Lucy Guo ผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI วัย 30 ปี ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่รวยที่สุดในโลกจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง (Self-made Billionaire) โค่นแชมป์เก่าอย่าง Taylor Swift วัย 35 ปี ที่ Forbes เคยประกาศสถานะมหาเศรษฐีเมื่อปลายปี 2023
Lucy Guo คือผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI ร่วมกับ Alexandr Wang เมื่อปี 2016 ในขณะที่เธออายุเพียง 21 ปี และ Wang อายุเพียง 19 ปี โดย Wang รับหน้าที่ซีอีโอ ส่วน Guo ดูแลฝ่ายปฏิบัติการและออกแบบผลิตภัณฑ์
ทั้งคู่เคยติดทำเนียบ Forbes Under 30 เมื่อปี 2018 แต่ในปีเดียวกันนั้นก็เกิดความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการบริหารบริษัท จนท้ายที่สุด Wang จึงตัดสินใจปลด Guo ออกจากตำแหน่ง โดย Guo ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า “แม้เราจะเห็นต่างกัน แต่ฉันก็ยังภูมิใจกับสิ่งที่ Scale AI ทำสำเร็จมาได้”
Lucy Guo คืออดีตนักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์ Human-Computer Interactions ที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon แต่เลือกที่จะดรอปเรียนกลางคัน เพื่อเข้าร่วมโครงการทุน Thiel Fellowship ของ Peter Thiel อดีตซีอีโอ PayPal ที่สนับสนุนคนที่มีไอเดีย ก่อนจะมาก่อตั้งธุรกิจ
ปัจจุบัน Lucy Guo ยังคงถือหุ้น 5% ใน Scale AI มีความมั่งคั่งสุทธิกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อปี 2022 ก็ได้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Passes คู่แข่งของ OnlyFans ขึ้นมาและนั่งตำแหน่งซีอีโออีกด้วย
แต่สิ่งที่น่าสนใจของ Lucy Guo คือ แม้ว่าเธอจะติดลิสต์มหาเศรษฐีอายุน้อย แต่ก็ยังใช้ชีวิตอย่างประหยัด โดยเธอเคยออกมาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune ว่า “ฉันไม่ชอบเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์”
“เสื้อผ้าทุกชิ้นที่ฉันใส่ได้มาฟรีหรือไม่ก็ซื้อจาก Shein บางชิ้นคุณภาพอาจไม่ได้ดีมาก แต่ก็จะมีสักสองชิ้นที่ใส่แล้วดี ฉันก็ใส่มันทุกวัน” เธอพูดพร้อมหัวเราะ “ฉันยังซื้อดีล 1 แถม 1 บน Uber Eats อยู่เลยด้วยซ้ำ”
โดยเธอยังเล่าว่ามีประโยคหนึ่งที่บังเอิญไปเห็นก่อนวันสัมภาษณ์ซึ่งสะท้อนชีวิตเธอได้ดีคือ “ใช้ชีวิตเหมือนคนจน จะได้รวยยั่งยืน” (Act broke, Stay rich) พร้อมกับย้ำว่า แม้เธอจะถือหุ้นในยูนิคอร์นด้าน AI แต่ชีวิตประจำวันของเธอก็ยังคงสมถะ ไกลห่างจากภาพชีวิตหรูหราของมหาเศรษฐีทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ เธอยังได้แสดงความคิดเห็นต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเธอและมหาเศรษฐีคนอื่น ๆ ว่า “คนที่คุณมักเห็นว่าใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ขับรถหรู ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเศรษฐีเงินล้าน เพราะเพื่อนรอบตัวของพวกเขามักเป็นมหาเศรษฐี จึงเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ เลยต้องโชว์ฐานะให้คนอื่นเห็นว่าฉันก็ประสบความสำเร็จนะ”
“แต่ฉันไม่ต้องโชว์ให้ใครดูเลย” Guo กล่าวต่อ “ฉันคิดว่าหลายคน ซึ่งก็รวมถึงตัวฉันเองด้วย ต้องผ่านช่วงนั้นมา คือคุณเริ่มประสบความสำเร็จแต่ยังไม่ถึงจุดที่คุณต้องการ คุณเลยรู้สึกต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยแบรนด์เนม แต่พอถึงจุดหนึ่งที่คุณเป็นมหาเศรษฐี คุณใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ หรือเสื้อฮู้ดได้ เพราะไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว ทุกคนต่างก็เข้าหาคุณอยู่ดี”
ที่มา: Yahoo! Finance, CNBC, Forbes [1][2], TechCrunch
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney